fbpx

ขยายพื้นที่ค้นหา 23 กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ลงใต้มากขึ้นถึงสุราษฎร์ธานี

ประจวบคีรีขันธ์ 23 ธ.ค. –เดินหน้าต่อ ไม่ท้อ ขยายพื้นที่การค้นหา 23 กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่สูญหาย โดยลงไปทางใต้มากขึ้นถึงสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังสมทบทั้งทางเรือ ใต้น้ำ อากาศยาน


ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย วันนี้พล.ร.ท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือ ภาคที่ 1 เผยว่า วันนี้ยังเดินหน้าต่อค้นหาต่อ โดยไม่ท้อและจะพยายามให้ถึงที่สุด หลังจากนี้จะโฟกัสที่การช่วยเหลือ แต่อุปสรรคคือการไม่รู้ทิศทางกระจายตัวของผู้สูญหายว่าลอยไปในทิศทางใดบ้าง การค้นหาในวันนี้จะขยายพื้นที่ลงใต้มากขึ้นตามทิศทางลม ไปถึง จ.สุราษฎร์ธานี


โดยกำลังหลักในทะเลยังมีเรือใหญ่ 4 ลำ คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงนราธิวาส ค้นหาในทะเลลึก


ส่วนกำลังสมทบ วันนี้ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มจาก ศรชล.สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย เรือตำรวจน้ำ เรือกรมประมง รวมถึงเรือลิฟต์ ร่วมค้นหาในระยะ 20 ไมล์ทะเล จากฝั่ง ซึ่งได้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้า

ขณะเดียวกันยังได้รับความร่วมมือเดินเท้าสำรวจบนฝั่ง ตั้งแต่ อ.บางสะพาน ลงไป ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกอำเภอ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานีได้ขอความร่วมมือไปยังชาวประมงให้ช่วยค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายในระหว่างออกเรือทำประมงด้วย

ขณะที่ทางอากาศยาน วันนี้ได้เฮลิคอปเตอร์มาช่วยบินค้นหาเพิ่มมาอีก 1 ลำ รวมขณะนี้มีเฮลิคอปเตอร์ค้นหาทั้งหมด 7 ลำ และได้เพิ่มอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ลาดตระเวนทางด้านเหนือ เพิ่มเติมจากก่อนหน้าที่ใช้บินสำรวจด้านใต้จุดที่เรือจม


จากการสำรวจของยานสำรวจใต้น้ำ Sea Fox ของกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ เมื่อวาน พบลักษณะการจมของเรือหลวงสุโขทัยซึ่งอยู่ในลักษณะเอียงตัว แต่ทั้งนี้ยานสำรวจใต้น้ำ Sea Fox ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจในเรือได้ จากนั้นได้ส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจ แต่กระแสน้ำบริเวณเรือหลวงสุโขทัยจมอยู่แรงมาก แรงกว่ากระแสน้ำด้านบน นักประดาน้ำจึงต้องกลับขึ้นมาก่อน

นอกจากนี้ วันนี้มีทีมโดรนของสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ มาร่วมปฏิบัติการค้นหากับมูลนิธิตามแนวชายฝั่ง โดยได้เตรียมโดรนใต้น้ำ 3 ลำ มาร่วมดำสำรวจใต้น้ำ

ส่วนความคืบหน้าการเก็บดีเอ็นเอครอบครัวผู้สูญหาย ขณะนี้ทำการเก็บตัวอย่างไปครบทุกรายแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง