นครปฐม 22 ก.ย. – เหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงาน จ.นครปฐม ตรวจสอบล่าสุดไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว ด้านโรงงานที่เกิดเหตุทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ยืนยันไม่มีการรั่วไหลไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน
สารเคมีกลุ่มอะโรมาติกเบนซิน รั่วไหล 30 ลิตร จากโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกแห่งหนึ่งใน ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม กลิ่นคล้ายโซดาไฟฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ ในพื้นที่ อ.นครชัยศรี อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้าน
หลังเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ โดยระบุว่า เหตุเกิดประมาณ 06.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.) หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ เวลาประมาณ 08.30 น. ก็ไม่มีกลิ่นแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันในกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติก ทำให้มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้ได้รับผลกระทบจากกลิ่นดังกล่าว แต่ได้แจ้งโรงพยาบาลและสถานีอนามัย ทั้งใน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล หากมีประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้เร่งช่วยเหลือโดยด่วน
ส่วนบริษัทที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้สั่งหยุดการผลิตชั่วคราว และเมื่อซ่อมบำรุงเสร็จ ต้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบ ก่อนดำเนินการผลิตรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเวลา 15.26 น. ไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว
ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 ออกประกาศชี้แจงสถานการณ์ว่า เกิดเหตุสารเคมีกลุ่มอะโรเมติกเบนซินรั่วไหล ไดฟีนิลออกไซด์ และไบฟีนิล ซึ่งเป็นสารที่มีน้ำหนักเบา ลอยไปในอากาศได้ระยะไกล หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และส่งผลต่อทางเดินหายใจ ข้อปฏิบัติ ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หากพบความผิดปกติทางร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลิ่นเหม็นเมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยประดิษฐ์ สารที่รั่วไหลเป็น Hot oil down term DT1 ซึ่งเป็นสารแลกเปลี่ยนความร้อนของระบบหล่อเย็น เป็นสารกลุ่มอะโรเมติกเบนซิน ชนิดไบฟีนิล และไดฟีนิลออกไซด์ 75% รั่วไหลบริเวณระบบการผลิตเม็ดพลาสติกของโรงกลั่นพลาสติก ประมาณ 30 ลิตร เป็นสารมีน้ำหนักเบา จึงลอยไปได้ไกล ผลกระทบของสาร การหายใจเอาไอระเหยเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ได้แนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ขณะที่กรมควบคุมโรค ระบุว่า สารพิษอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงป่วยจาก 3 กลุ่มโรค
- กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ อาเจียน คลื่นไส้
- กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย
- กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา ตาแดง
หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสสารเคมี
- หากโดนผิวหนัง ใช้น้ำสะอาดล้างให้มากที่สุด เพื่อให้เจือจาง ถ้าถูกเสื้อผ้าให้ถอดเสื้อผ้าออกก่อน
- หากเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที รีบนำส่งโรงพยาบาล
- หากสูดดมเข้าไป ย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์หรือมีอากาศถ่ายเท และประเมินการหายใจ
ด้าน “อจ.อ๊อด” หรือ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายถึงสารไดฟีนิลออกไซด์ที่รั่วไหล ว่าเป็นสารอันตราย ทำให้ระคายเคืองตา ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ แนะนำว่าให้อพยพออกจากพื้นที่โดยเร็ว ฟอกสบู่และล้างด้วยน้ำมากๆ
ส่วนสาร “โทลูอีน” ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ถ้าสูดดมนานๆ หรือเข้าผิวหนัง ระยะยาวมีผลต่อไขกระดูกและโลหิต อาจกลายเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้
จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณใต้ลมและบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ในระยะ 1-20 กิโลเมตร จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย
- โรงเรียนวัดปุรณาวาส แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
- โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
- โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
- โรงพยาบาลสามพราน ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม
- โรงเรียนตลาดบางคูลัด ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ทุกจุดตรวจไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โรงเรียนบางแห่งประกาศงดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษ 1 วัน อาทิ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ ม.มหิดล, โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล และโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลาบมัธยม)
ล่าสุดโรงงานที่เกิดเหตุได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีสารเคมีรั่วไหลว่า เป็นการรั่วไหลของไอระเหยในระบบการให้ความร้อนของเหลวโดยเชื้อเพลิง จากเครื่องทำความเย็นของระบบทำความร้อน HTM เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น. วันนี้ (22 ก.ย.) ทั้งนี้ บริษัทสามารถควบคุมการรั่วไหลได้อย่างรวดเร็วภายใน 10 นาที โดยไม่มีการรั่วไหลไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ และไม่มีพนักงานของบริษัท หรือบุคคลอื่นใดในชุมชนโดยรอบได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งไม่มีความเสียหายใดๆ ต่ออุปกรณ์ภายในโรงงาน ขณะนี้การรั่วไหลดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน. – สำนักข่าวไทย