ประจวบคีรีขันธ์ 9 เม.ย.- รักษาราชการผู้การประจวบฯ กำชับตำรวจ สภ.ทับสะแก เร่งคดีสาว ปวส.ถูกข่มขืน ทำสำนวนให้รัดกุม ยันให้ความเป็นธรรมเต็มที่ พร้อมดูแลความปลอดภัยหลังถูกโทรข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ เผย 10 เม.ย.นี้เรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาพบ
กรณีนางกัญญาภัค อินทร์จันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พานางสมร ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 67 ปี กับ น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี หลานสาว นักศึกษาเทคนิค ชั้น ปวส.2 ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกนายเอ อายุ 16 ปี ลูกชายเจ้าของธุรกิจค้ามะพร้าวรายใหญ่ ข่มขืนบริเวณป่าละเมาะใกล้เหมืองร้าง หมู่ 1 ต.นาหูกวาง เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ทับสะแก ขณะที่ผลตรวจของแพทย์โรงพยาบาลทับสะแกระบุพบร่องรอยถูกกระทำชำเรา แต่ขณะนี้คดียังไม่คืบหน้าและผู้เสียหายยังถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ
พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาราชการ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.ทับสะแก รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบ และเป็นคดีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ให้ความสนใจ ซึ่งมีการนำเสนอข่าวทางสื่อและโซเชียล นอกจากนี้ ยังให้ พ.ต.อ. วันชัย ธารณธรรม รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามตรวจสอบการทำสำนวนให้รัดกุม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเข้าควบคุมคดีดังกล่าว เพื่อให้ผู้เสียหายซึ่งอาศัยอยู่กับยายอายุ 67 ปี เพียง 2 คน มีความมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีความมั่นใจด้านปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากมีการข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ ล่าสุดได้ทำหนังสือสั่งการให้ ผกก.สภ.ทับสะแกจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนไปคุ้มครองดูแลความปลอดภัย และทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้นายเอ มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 เมษายนนี้ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเป็นผู้เยาว์จะต้องสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ส่วนการตั้งข้อหาพยายามฆ่านั้นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ด้านนางกัญญาภัค กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยขณะนี้ น.ส.ดาวได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติ ซึ่งไม่สามารถแจ้งสถานที่ให้ทราบได้ ขณะที่ยายอายุ 67 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านพักเพียงคนเดียวและมีการข่มขู่อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน น.ส.แมว พี่สาวต่างมารดาของ น.ส.ดาว เดินทางมาที่ สภ.ทับสะแก เพื่อพบกับผู้สื่อข่าว โดยอ้างว่าต้องการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับสื่อออนไลน์ที่เสนอข้อมูลกรณีการโอนเงิน 80,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร เพื่อเกลี้ยกล่อมให้น้องสาวถอนแจ้งความนั้น ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ขณะที่ พ.ต.ท.ทัศจักร ลีลาโรจนกุลเลิศ รอง ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ทับสะแก ที่ร่วมรับฟังการชี้แจงของนางแมว ได้ทำความเข้าใจว่าเป็นการนำเสนอของสื่อ โดยใช้นามสมมุติ เนื่องจากผู้ถูกแจ้งความกับผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์ ไม่ได้พาดพิงโดยตรง ประกอบกับสื่อมวลชนได้สอบถามที่มาของเงินโอน 80,000 บาทแล้ว ซึ่ง น.ส.แมว อ้างว่าถูกหวยใต้ดิน และต่อมาแจ้งว่ามีอาชีพเป็นนายหน้าค้าที่ดิน พร้อมจะให้ตรวจสอบการโอนเงินจำนวนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจาก น.ส.แมว ไม่สามารถแจ้งคดีหมิ่นประมาทกับสื่อ แต่ น.ส.แมว ได้แจ้งว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทน้องสาวต่างมารดาที่ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนกับสื่อมวลชนทำให้ตนถูกดูหมิ่นเกลียดชัง.-สำนักข่าวไทย