ประจวบคีรีขันธ์ 10 เม.ย.- ตำรวจ สภ.ทับสะแก พาเยาวชนชาย 15 ปี เข้าพบสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำคดีข่มขืนนักศึกษาสาว เจ้าตัวให้การภาคเสธ อ้างเป็นการสมยอม ด้านรักษาการผู้การประจวบฯ สั่งเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดี เพื่อความเป็นธรรมสองฝ่าย
กรณีนางกัญญาภัค อินทร์จันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พานางสมร (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 67 ปี กับ น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี หลานสาว นักศึกษาเทคนิค ชั้น ปวส.2 ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกนายเอ อายุ 16 ปี ลูกชายเจ้าของธุรกิจค้ามะพร้าว ข่มขืนบริเวณป่าละเมาะใกล้เหมืองร้าง หมู่ 1 ต.นาหูกวาง เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ทับสะแก ขณะที่ผลตรวจของแพทย์โรงพยาบาลทับสะแกระบุพบร่องรอยถูกกระทำชำเรา แต่ขณะนี้คดียังไม่คืบหน้าและผู้เสียหายยังถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ
เมื่อเวลา 14.00 น. (10 เม.ย.) ร.ต.อ.ไพรัช พาเขียว รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทับสะแก นำตัวนายเอ ขึ้นรถกระบะ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนป้ายแดง มายังสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากนายเอ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้วและพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เมื่อนายเอ ลงจากรถได้ทำทีถือเครื่องพรินเตอร์เดินเข้าสำนักงานอัยการ คาดว่าไม่ให้เป็นที่สนใจของสื่อมวลชน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายเอ ไปให้ปากคำกับตัวแทนสหวิชาชีพ และนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พิจารณาตามขั้นตอนเพื่อขอออกหมายขังผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ได้นำบันทึกการรับมอบตัวและแจ้งข้อกล่าวหานายเอ ฐานความผิดอาญาฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ และโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปและทำให้เสียทรัพย์ มีอัตราโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาได้ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.ดาว ซึ่งให้ความยินยอมสมัครใจ และมีปากเสียงกันเรื่องแหวนทองคำมูลค่า 1 สลึง ที่ผู้เสียหายได้ขอยืมไปจำนำเพื่อนำไปผ่อนชำระค่าไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์ ทำให้นายเอ.บันดาลโทสะแย่งโทรศัพท์มือถือขว้างทิ้งลงในสระน้ำ แต่ไม่ได้ชิงเงินสด 400 บาท ตามที่ผู้เสียหายกล่าวหา
พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาการ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้สั่งการให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน โดยให้ พ.ต.อ. วันชัย ธารณธรรม รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวน และเข้าควบคุมคดีที่ น.ส.ดาว แจ้งความนายเอ กับคดีที่นายเอ จะแจ้งความกลับในข้อหาพรากผู้เยาว์ ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ทับสะแก ไปคุ้มครองความปลอดภัย พร้อมพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ น.ส.ดาว กับผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ความมั่นใจในการทำคดี
ด้านนางพร อายุ 36 ปี แม่ของนายเอ ซึ่งเดินทางมาพร้อมลูกชายเพื่อฟังการสอบปากคำของสหวิชาชีพ ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกชายเคยติดยาเสพติด แต่ปัจจุบันเลิกแล้ว ส่วนคดีที่เกิดขึ้นลูกชายยืนยันว่าผู้เสียหายยินยอม แต่พาไปมีเพศสัมพันธ์ใกล้เหมืองร้าง เพราะขาดความยั้งคิด เนื่องจากอายุยังน้อย ส่วนการแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดจะแจ้งและต้องการคดีจบอย่างรวดเร็ว เพราะครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง กระทบกับการประกอบอาชีพ สาเหตุที่คดีล่าช้า เพราะกลัวลูกชายต้องไปอยู่ในสถานพินิจเป็นเวลานาน ขณะที่ภรรยาของลูกชาย อายุ 15 ปี กำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน ส่วนตัวอยากให้เรื่องจบ เพียงแต่ให้ผู้เสียหายยอมรับความจริงว่าสมยอมเพื่อนำแหวนไปจำนำจ่ายค่าผ่อนรถไม่มีการข่มขืน.-สำนักข่าวไทย