ประจวบคีรีขันธ์ 11 เม.ย.- ศาลเด็กและเยาวชนประจวบฯ ไม่อนุญาตให้ประกันเยาวชนชาย วัย 16 ปี คดีข่มขืนสาว ปวส. และคุมตัวเข้าสถานพินิจฯ ขณะที่พนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหา
กรณีนางกัญญาภัค อินทร์จันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พานางสมร (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี และ น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 21 ปี หลานสาว นักศึกษา ชั้น ปวส. 2 เข้าแจ้งความกับ สภ.ทับสะแก เนื่องจากถูกนายเอ อายุ 16 ปี ลูกชายเจ้าของธุรกิจค้ามะพร้าว ข่มขืนบริเวณป่าละเมาะใกล้เหมืองร้าง หมู่ 12 ต.นาหูกวาง เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า และทางผู้เสียหายยังถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์เพื่อให้ถอนแจ้งความนั้น
พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาการ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากมีคำสั่งเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนและให้ พ.ต.อ. วันชัย ธารณธรรม รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนเข้าควบคุมคดี โดยคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเกตุอันตรายประการอื่น ประกอบกับผู้เสียหายเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันในการคัดค้านการประกันตัวของนายเอ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งศาลได้ไต่สวนแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัว จากนั้นได้นำตัวนายเอ ไปควบคุมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนเสนอความผิดคดีอาญา ฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ และโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปและทำให้เสียทรัพย์ มีอัตราโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี
สำหรับคดีดังกล่าวในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.ดาว โดยสมัครใจยินยอม จากนั้นก็มีปากเสียงกันเรื่องแหวนทองคำมูลค่า 1 สลึง ที่ฝ่ายหญิงขอยืมไปจำนำเพื่อผ่อนชำระค่าไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์ ทำให้นายเอ บันดาลโทสะแย่งโทรศัพท์มือถือขว้างทิ้งลงในสระน้ำ แต่ไม่ได้ชิงเงินสด 400 บาท ตามที่ผู้เสียหายกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย