สนามบินอู่ตะเภา 5 เม.ย. – ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศพร้อมลงทุน อมตะพร้อมนำที่ดิน 1 หมื่นไร่ ร่วมพัฒนา EEC ให้เป็นเขตอุตสาหกรรมใหม่
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต้องเป็นเมืองนวัตกรรมใหม่ ไม่ใช่ภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูง เพราะค่าแรงไทยแพงกว่าเพื่อนบ้าน อมตะเตรียมพื้นที่กว่าหมื่นไร่ในนิคมอุตสาหกรรมเซาท์อีสเทิร์นซีบอร์ด เข้าร่วมพัฒนา EEC เมื่อแผนการลงทุนรัฐบาลชัดเจนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งสนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ท่าเรือ และเริ่มลงทุนปีนี้ แผนดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในและต่างชาติเกิดการลงทุน 1.5 ล้านล้านบาทในช่วง 5 ปี ข้างหน้า คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นหลังจากนี้และเกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ทั้งการส่งออกขยายตัวจากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม
นายณรงค์ศักดิ์ จิยะคณนัน รองประธานบริหาร ด้านกลยุทธ์ บริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.เข้ามาพัฒนาและตั้งโรงงานปิโตรเลียมในพื้นที่ภาคตะวันออก 30 ปี จึงมองเห็นศักยภาพของพื้นที่ จึงเตรียมความพร้อมด้านวัตถุดิบปิโตรเคมีรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ซึ่งใช้เทคโนโลยีพัฒนาสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรม เมื่อภาครัฐมีแผนพัฒนาชัดเจนมองว่าภาคเอกชนพร้อมเข้ามาลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว
นายฮิโรกิ มิทสึมาตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า ภาคเอกชนญี่ปุ่นต้องการความชัดเจนนโยบาย EEC จากฝ่ายไทย เมื่อนายกรัฐมนตรีไทยยืนยันว่า EEC เป็นโครงการที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมีกฎหมายเกี่ยวข้องควบคุมพัฒนา EEC ให้มีความต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทเอกชนญี่ปุ่นต้องการให้ไทยมีเงื่อนไขพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์ดึงดูดมากขึ้น ยอบรับว่านักลงทุนที่นำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการลงทุนยังไม่มาก จึงต้องการให้ปรับหลักเกณฑ์การนำบุคลากรต่างชาติเข้ามาทำงานมากขึ้น จากเดิมกำหนดการจ้างบุคลากรและเจโทร มองว่าสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเสนอให้นักลงทุนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการดึงดูดนักลงทุนในการนำเทคโลยีใหม่มาลงทุน ควรพิจารณาข้อเสนอของผู้สนใจเป็นรายกรณี.-สำนักข่าวไทย