ไอพีพี “กัลฟ์” ฉลุยขายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผน

กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – โรงไฟฟ้าอีพีพี เครือกัลฟ์ 5,000 เมกะวัตต์ เดินหน้าตามแผนหลังได้รับบีโอไอ เตรียมลงนามเจบิคกู้เงิน ด้านบริษัทแม่ “กัลฟ์เอ็นเนอร์ยี่” เตรียมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับโฉมเป็นบริษัทพลังงานไม่ใช่เพียงผู้ผลิตไฟฟ้า


แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มกัลฟ์ หลังจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) กลุ่มกัลฟ์ 5,000 เมกะวัตต์ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 วงเงินลงทุนรวม 117,800 ล้านบาท ขั้นตอนต่อไปทางกัลฟ์จะเดินหน้าตามแผนงาน โดยกัลฟ์ลงนามมสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (พีพีเอ) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้ว จะทยอยเข้าปีละ 1,250 เมกะวัตต์ เริ่มใน 6-7 ปีข้างหน้า (2564-2569) ซึ่งจากนี้จะต้องทำการศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) และการกู้เงิน โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค)  

นอกจากนี้ กัลฟ์ฯ สนใจนำเข้าแอลเอ็นจีผ่านระบบท่อของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่เปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้ร่วมได้ โดยในอนาคตบริษัท กัลฟ์เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จะเตรียมตัวเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อไปและมีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจพลังงานจากเดิมเป็นเพียงบริษัทที่ดำเนินธุรกิจกิจการไฟฟ้าอย่างเดียว 


นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าฯ กฟผ. กล่าวว่า  กฟผ.เดินหน้าแผนก่อสร้างสายส่งไฟฟ้ารองรับโครงการไอพีพีของกลุ่มบริษัท กัลฟ์ ฯ   มูลค่าลงทุนสายส่งอยู่ที่ 7,250 ล้านบาท โดยผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด กฟผ.แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำรวจพื้นที่และออกแบบโครงการสายส่งระยะที่ 1 คาดว่าจะใช้เวลา 1 ปี หรือเสร็จสิ้นปลายปี 2560 และจะเริ่มออกหลักเกณฑ์เงื่อนไข (TOR) เพื่อเปิดประมูลหาผู้รับเหมาโครงการช่วงต้นปี 2561 เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในยูนิตแรก 2,500 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเข้าสู่ระบบปี 2563 จากนั้นจะดำเนินการสายส่งระยะที่ 2 เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในยูนิตสอง 2,500 เมกะวัตต์ต่อไป เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเสร็จสิ้นตามแผนปี 2568  

“ขั้นตอนการก่อสร้างสายส่ง กฟผ.ต้องสำรวจพื้นที่และการรอนสิทธิ์สร้างสายส่ง โดยจะต้องขออนุมัติ วงเงินรอนสิทธิ์จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งวงเงินเหล่านี้จะมากน้อยจะถูกผนวกรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าด้วย” นายกรศิษฏ์ กล่าว

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการ กกพ. เปิดเผยว่า ขั้นตอนการดำเนินงานพัฒนาของกลุ่มกัลฟ์ผู้ชนะประมูลรับซื้อไฟฟ้าไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์ ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่จะต้องขายไฟเข้าระบบตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ลงนามไปแล้ว ซึ่งต้องทยอยจ่ายไฟเข้าระบบตั้งแต่ปี 2564-2569 ขณะที่ กฟผ.ได้ดำเนินงานสร้างสายส่งรองรับโครงการดังกล่าว ซึ่ง กกพ.อนุมัติดำเนินงานแล้ว ซึ่ง กฟผ.ต้องเสนอ ครม.อนุมัติและเดินหน้าลงทุน หากสร้างไม่ทันเวลา ไฟฟ้าเข้าระบบ กฟผ.เองก็อาจถูกปรับได้. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง