กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – ในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) แถลงข่าวเรื่องการแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียมและการติดตามกรณีท่อก๊าซ บมจ.ปตท. โดย คปพ.ระบุว่าจะมีการลงมติของคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฯ พิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ว่าจะแก้ไขหลักการหรือไม่
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางภาครัฐยืนยันตามคำสั่งศาลปกครองว่าการคืนท่อก๊าซเรียบร้อยแล้ว ขณะที่การแก้ไขกฏหมายปิโตรเลียมฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา กมธ.วิสามัญที่ล่าสุดทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขยายเวลาการพิจารณาเป็น 4 เดือน หรือเสร็จสิ้นภายในวันที่ 21 ธันวาคม 2559 ขณะที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ขอให้ กมธ.เร่งพิจารณาและเสนอ สนช.พิจารณาวาระ 2 และ 3 เพื่อประกาศบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2559 และจะได้จัดการประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานแหล่งเอราวัณฯ และบงกช ปี 2565-2566 โดยกำหนดเปิดประมูลเดือนมีนาคม 2560
นางบุญบันดาล ยุวนะศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงานและ กมธ.วิสามัญ กล่าวว่า วันจันทร์จะมีการประชุม กมธ. แต่ยังไม่ได้ระบุวาระว่าจะหารือประเด็นใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงพลังงานที่เสนอแก้ไขกฎหมายนี้ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ทางภาคประชาชนเสนอมาว่าการบริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมควรจะใช้ระบบอื่นด้วยไม่ใช่สัมปทานอย่างเดียว ดังนั้น จึงแก้ไขให้มีทางเลือก ทั้งระบบสัมปทาน, ระบบแบ่งปันผลผลิตและรับจ้างผลิต ซึ่งในแง่ของกระทรวงก็ต้องการเห็นการแก้ไขกฎหมายให้เดินหน้า เพราะหากล่าช้าออกไป ก็น่าเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานที่การลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้องใช้เวลานานในการสำรวจและผลิต. -สำนักข่าวไทย