กระทรวงการต่างประเทศ 10 พ.ย.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ นโยบายของ “ทรัมป์” มีหลายเรื่องน่าสนใจ เชื่อผู้นำทุกคน มีเจตนาดีต่อประเทศ ประชาชน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ในความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ 183 ปีที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตก็ผลัดกันขึ้นมาเป็นผู้ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็มีความคุ้นเคยกันอยู่ เพียงแต่ในช่วงนี้คนสนใจนายโดนัล ทรัมป์ ในฐานะที่เป็นบุคคลจากอีกวงการหนึ่งซึ่งเข้ามาสู่การเมืองและมีสีสันมานาน และจากการแสดงท่าทีที่ไม่เป็นแบบนักการเมืองปกติแต่มาจากมุมมองด้านธุรกิจที่ถือว่ามีความสำคัญ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หากไปดูรายการ ดิแอพเพรนติส ที่ทรัมป์เคยจัด จะได้รู้ว่าเขามีวิธีบริหารจัดการคนอย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในการบริหารประเทศต่อไป เท่าที่ฟังนโยบายที่พูดมามีอะไรน่าสนใจเยอะ อาทิ นโยบายการพัฒนาเมืองชั้นใน ซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญในอดีต แต่กลายเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมในปัจจุบันเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่เหล่านี้ ซึ่งอาจจะอยู่ในความสนใจทั้งจากนานาประเทศรวมถึงในสหรัฐเองที่เคยไปลงทุนที่อื่น
นายดอน กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะมีมุมมองอย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วต้องมีการปรับความสมดุลเกิดขึ้นภายในประเทศ จากสารพัดท่าทีที่เคยมี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกรัฐบาลในอดีต แต่เชื่อว่าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผู้นำอย่างไร ก็มีเจตนาที่ดีต่อประเทศชาติ ประชาชน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้พูดว่าเราจะสามารถเสนอการจ้างงานหรือการลงทุนที่เป็นประโยชน์กับสองประเทศได้หรือไม่ เพราะการลงทุนของไทยขณะนี้เป็นเรื่องสองทาง คือทั้งเอาคนของเขามาลงทุนและเอาคนของเราออกไปลงทุนในต่างประเทศ
“ดังนั้นต่อไปในอนาคตสิ่งที่เห็นคงเป็นไปในทางที่ดีเหมือนในอดีต โดยเฉพาะถ้ามีความเคารพซึ่งกันและกัน” นายดอน กล่าว
เมื่อถามว่านโยบายแข็งกร้าวต่อผู้อพยพจะส่งผลกระทบกับคนไทยที่เข้าไปอยู่ในสหรัฐอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า เมื่อไปอยู่ในสังคมใดทุกคนต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ ถ้าทำตัวให้เป็นประโยชน์ มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน และทำให้เกิดประโยชน์กับสังคมของเขาก็จะมีการยอมรับ แต่ไม่ใช่ไปล่องลอย ทำอะไรไม่เกิดคุณค่า หรือทำผิดกฎหมาย ก็อาจเป็นเป้าได้ อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้เป็นที่รับรู้กันมานานแล้ว ก็ขอให้ทุกคนปรับตัว. -สำนักข่าวไทย