เครือข่ายโกตี๋ปัดสะสมอาวุธลอบสังหารนายกฯ

กทม.24 มี.ค.- สอบ 9 ผู้ต้องหาเครือข่าย “โกตี๋” ปัดเตรียมอาวุธลอบสังหารนายกฯหรือก่อเหตุรุนแรง ซัดทอด อดีตนักการเมือง เอี่ยวอาวุธสงคราม


พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการสอบปากคำและสัมภาษณ์ 9 ผู้ต้องหา คดีครอบครองอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี หลังเจ้าหน้าที่ทหารส่งตัวให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีตามกฎหมาย 

นายธีรชัย อุตรวิเชียร หนึ่งในผู้ต้องหาระบุว่า รู้จักโกตี๋ ตั้งแต่ปี 2556 โดยเข้าไปช่วยงานเกี่ยวกับสถานีวิทยุเรดเรดิโอโกตี๋ที่จังหวัดปทุมธานี ส่วนอาวุธปืนที่ยึดได้ โกตี๋ให้นำมาเก็บรักษาไว้บ้านตน ยืนยันว่าไม่เคยนำไปใช้ก่อเหตุความรุนแรง แค่มีไว้ป้องกันเวทีชุมนุมบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ พร้อมยอมรับว่าเคยนำอาวุธออกไปพร้อมกลุ่มการ์ดเพื่อไปยึดเขตเลือกตั้งจากกลุ่ม กปปส.ที่แยกหลักสี่เมื่อปี 2557 แต่ถอนกำลังออกไปก่อนเกิดเหตุยิงปะทะ ตนไปพบกับนายโกตี๋ที่ประเทศลาว 3 ครั้ง ไม่มีการประชุมวางแผนก่อเหตุรุนแรงเพื่อขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นวัดพระธรรมกายตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าโกตี๋เคยบอกกับตนว่ามีอาวุธในตู้คอนเทนเนอร์ อ้างผู้ใหญ่ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองเกี่ยวข้องด้วย พร้อมปฏิเสธประเด็นสะสมอาวุธสงครามไว้เตรียมลอบสังหารนายกรัฐมนตรี เพราะมองว่าโกตี๋ไม่มีศักยภาพเพียงพอ


ด้านนายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ ผู้ต้องหาอีกคน ปฏิเสธว่าอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ยึดมาเป็นบีบีกัน ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ส่วนปืนพกอีก 2 กระบอกไม่ใช่ของตน เป็นปืนถูกกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ไปยึดมาจากบ้านของภรรยา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องวัดพระธรรมกาย กรณีไปพบนายธีรชัย เพื่อดื่มกาแฟกันเท่านั้น และไม่รู้จักโกตี๋เป็นการส่วนตัว

ขณะที่พลตำรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ถูกออกหมายจับ ข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองไม่ได้รับอนุญาต , มีวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติด (ยาบ้า) ในครอบครอง รวมทั้งข้อหาซ่องโจร จะถูกส่งให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สอบสวนต่อ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ยกเว้นผู้ต้องหา 1 คน คือ ว่าที่ร้อยตรีสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล ถูกศาลทหารออกหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบจะดำเนินคดีในส่วนนี้ก่อน  อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยอมรับเป็นบุคคลตามหมายจับเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 4 คนถูกออกหมายจับในคดีเดียวกัน ซึ่งยังอยู่ระหว่างหลบหนี ในจำนวนนี้คือ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุม

สำหรับผู้ต้องหาที่ศาลออกหมายจับให้ทั้ง 9 คนประกอบด้วย นายธีรชัย อุตรวิเชียร, นายประเทือง อ่อนละมูล, นางปาลิดา เรืองสุวรรณ, นายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์, นางเอมอร วัดแก้ว, นายอุดมชัย นพสวัสดิ์, จ่าสิบเอกธนโชติ วงศ์จันทร์ชมพู,ว่าที่ร้อยตรีสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล และนายบุญส่ง คชประดิษฐ์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว