ไทยวางอีอีซีเป็นโรปแมปนำทางสู่ไทยแลนด์ 4.0



กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – ไทยย้ำอีอีซีเป็นกลไกสำคัญทำให้เป้าหมายไทยแลนด์
4.0 ประสบความสำเร็จ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา
CLMVT พลังขับเคลื่อนใหม่ของเอเชีย
: จุดเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก”  โดยระบุว่า รัฐบาลตั้งเป้าให้พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
หรือ อีอีซี เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเศรษฐกิจของกลุ่ม
CLMV และถือเป็นโรดแมปที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปสู่จุดมุ่งหมายคือ
ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์
4.0
ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่อาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง
โดยขณะนี้มีนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ
เข้ามาสอบถามสิทธิประโยชน์การลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว นอกจากบริษัท โรลส์รอยซ์
/ แอร์บัส / กลุ่มอีคอมเมิร์ช / หุ่นยนต์ รถไฟ และอุปกรณ์การแพทย์


รมว.อุตสาหกรรมระบุว่า พรุ่งนี้ (24 มี.ค.) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
หรือ บีโอไอ จะสรุปแพ็คเกจส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี
ซึ่งมีโอกาสที่ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดถึง
13 ปี
เพื่อจูงใจให้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทย
โดยเฉพาะการถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมในการผลิตแบตเตอรี่และแผงวงจรควบคุม
จากนั้นจะมีการเสนอแพ็คเกจของบีโอไอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบในวันที่
28 มีนาคมนี้

“นอกจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว
ผู้ประกอบการยังต้องการให้รัฐบาลเร่งจัดสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าให้เพียงพอ
พร้อมออกมาตรการส่งเสริมการใช้รถอีวีในไทย เช่น
รณรงค์ให้ใช้รถอีวีในแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
และให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อรถอีวีมาใช้แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
คาดว่าหากดำเนินการได้ตามแผน ภายใน
5 ปีปริมาณการใช้รถอีวีในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน”
นายอุตตมกล่าว

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า
กลุ่ม
CLMV เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง
ไทยจึงต้องหาโอกาสทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การค้าที่ต้องเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อลดอุปสรรคด้านการเดินทาง
และการขนส่งสินค้าข้ามแดน โดยขณะนี้รัฐบาลไทยพยายามเชื่อมโยงเส้นทางที่สำคัญ เช่น
แม่สอด-ย่างกุ้ง พร้อมพิจารณาเปิดด่านการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น เช่น ห้วยต้นดุ้น
จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดในการเชื่อมต่อไปยังเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมา
และจากจังหวัดสุรินทร์เชื่อมต่อไปยังกัมพูชา
รวมถึงต้องส่งเสริมให้ภาคธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน
และช่วยพัฒนาศักยภาพแรงงานด้วย 


ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าการลงทุนในกลุ่ม CLMV เห็นตรงกันว่า อยากให้ทุกประเทศก้าวไปพร้อมกัน
พร้อมยอมรับว่านโยบายด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังผู้นำคนใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
ทำให้การค้าการลงทุนของสหรัฐฯ กับเอเชียเกิดการขาดตอน
ดังนั้นผู้ประกอบการอาเซียนจำเป็นต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งภายในภูมิภาค

สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร