นนทบุรี 23 มี.ค. – กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลประมูลข้าวสู่ภาคอุตสาหกรรม มีผู้สนใจเสนอซื้อกว่า 2 ล้านตัน เตรียมเสนอ นบข.พิจารณาขายหรือไม่ พร้อมเร่งระบายข้าวส่วนที่เหลือให้หมดภายในปีนี้ลดภาระจัดเก็บเดือนละ 500 ล้านบาท
นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า มีผู้ยื่นซองเสนอราคา 16 ราย จาก 19 รายที่ผ่านคุณสมบัติ โดยมีผู้เสนอซื้อราคาสูงสุด 15 ราย ใน 157 คลัง ปริมาณ 2.07 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 56.50 ของปริมาณข้าวทั้งหมด มูลค่า 9,205 ล้าบาท โดยราคาเสนอซื้อสูงสุด 1,880 -5,100 บาทต่อตัน ซึ่งผลการประมูลครั้งนี้จะนำเสนอคณะอนุกรรมการระบายข้าววันที่ 28 มีนาคมนี้ก่อนที่จะนำเสนอ คณะกรรมการนโยบายบริหารและจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาขายหรือไม่
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการพิจารณาจะคำนึงราคาอาหารสัตว์ในตลาดมาประกอบการพิจารณาว่าราคาใกล้เคียงกันหรือไม่ โดย นบข.เห็นชอบกรอบการระบายข้าวส่วนที่เหลือทั้งหมดให้หมดในปีนี้ โดยกำหนดระบายข้าวเป็นช่วง ๆ คือ เดือนเมษายนนี้จะนำข้าวกลุ่มที่ 3 ซึ่งคนและสัตว์ไม่สามารถบริโภค 1.8 ล้านตัน มาเปิดประมูล และเดือนพฤษภาคมจะนำข้าวที่เหลือในกลุ่มที่ 1 หรือเป็นข้าวเพื่อการบริโภคและส่งออก ปริมาณ 1.5 ล้านตันมาประมูล
ส่วนเดือนมิถุนายนจะนำข้าวกลุ่มที่เหลือจากการประมูลสู่ภาคอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 มาประมูล และหลังจากนั้นจะมีการพิจารณาข้าวที่เหลือทั้งหมดนำมาระบายอีกครั้ง โดย นบข.กำชับให้เร่งระบายให้เสร็จภายในปีนี้ แต่ต้องไม่กระทบราคาตลาดเพื่อลดภาระค่าจัดเก็บ คิดจากปริมาณ 8 ล้านตัน ค่าจัดเก็บเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 500 ล้านบาท หรือ 17 ล้านบาท
สำหรับข้าวที่มีการระบายครั้งนี้หน่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้งองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จะต้องเข้มงวดการขนย้าย เพื่อไม่ให้ข้าวมาปะปนกับการบริโภค สำหรับการระบายข้าวในยุค คสช.กว่า 18 ล้านตัน มีระบายข้าวไปแล้วกว่า 10.1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 103,000 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่เดือนมกราคม – 21 มีนาคม สามารถส่งออกแล้วกว่า 2.6 ล้านตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นร้อยละ 2.7 ของปริมาณ แต่คิดมูลค่าลดลงร้อยละ 1 หรือ 38,000 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 39,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย