กรุงเทพฯ 20 มี.ค.-กรณีนางชัชชญา เกวสต้า รามอส หรือ “ยู่ยี่” อลิสา อินทุสมิต ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี 3 เดือน ข้อหานำเข้าโคเคนและครอบครองสัตว์ป่าสงวน เพื่อนสนิท “ยู่ยี่” ซึ่งรู้จักในวงการบันเทิงว่า “ป๋าต๊อบ” และรับเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 ร้อง ขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง หลังพบว่าเด็กทั้ง 3 คน ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
2 ปี 9 เดือนที่ ยู่ยี่ ถูกจำคุกในข้อหานำเข้าโคเคน ก็ไม่มีใครได้เห็นเธออีก ยู่ยี่ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ไม่เหลือเค้านางแบบชื่อดัง มีเพียงภาพนักโทษหญิงสภาพอิดโรยที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อกระทบความรู้สึกลูกชายทั้งสาม
“ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวแม่กลับมา” คือคำพูดสุดท้ายที่ยู่ยี่พูดกับลูกชายวัย 11, 8 และ 3 ขวบ ป๋าต๊อบ เพื่อนสนิทที่รับดูแล ยอมรับการขาดแม่กระทบต่อชีวิตของเด็ก บ่อยครั้งพวกเขาถูกเพื่อนล้อ และสงสัยว่าทำไมแม่ไม่กลับมา แม้คนรอบข้าง จะมอบความรัก การดูแลเอาใจใส่ พาไปเยี่ยมแม่ทุกอาทิตย์ แต่ความรู้สึกขาดแม่ ยังไม่ได้รับการเยียวยา
ถึงไม่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย แต่ในฐานะเพื่อนสนิทอยากให้ศาลรื้อคดี มองที่เจตนา เพราะโคเคนเพียง 251 มิลลิกรัม เท่ากับยาพาราเซตามอลครึ่งเม็ดบดละเอียด คงนำเข้าเพื่อขายไม่ได้ และโทษจำคุก 15 ปีถือว่าหนักเกินไปหรือไม่
เช่นเดียวกับเพจดังที่ยังคง แฉพิรุธคดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ ไม่ให้พบทนายขณะถูกจับ ไม่ตรวจปัสสาวะ บันทึกจับกุมปริมาณและชนิดยาไม่สอดคล้องกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และทนายขอถอนตัว อ้างคดีมีความซับซ้อน
ขณะที่กระแสสังคมเรียกร้องให้รื้อฟื้นคดี แต่กระทรวงยุติธรรมย้ำชัดคดีนี้ไม่เข้า 3 หลักเกณฑ์ที่จะรื้อฟื้น คือ 1.พยานในชั้นศาลเบิกความเท็จ 2.วัตถุพยานและพยานบุคคลสืบต่อศาลเป็นเท็จ และ 3.มีพยานใหม่หักล้าง
คดียู่ยี่ ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่กระทรวงยุติธรรมพยายามเร่งแก้ไขกฎหมายให้ครอบคลุมยาเสพติดประเภท 2, 4 และ5 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา หากได้ข้อสรุป นี่คงเป็นแสงสว่างเดียวที่จะเยียวยาจิตใจของยู่ยี่และครอบครัว รวมถึงอีกหลายชีวิตที่เผชิญชะตากรรมเช่นนี้.-สำนักข่าวไทย