กรมบัญชีกลาง 20 มี.ค. – ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างขอแนวทางที่
5 ให้กรรมการรถไฟฯ ร่วมถกทางออกรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 22 มี.ค.นี้
นายประสาร
ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง หรือซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง
เปิดเผยว่า เพื่อหาทางออกมาจัดทำเงื่อนไขประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างหรือทีโออาร์โครงการรถไฟทางคู่
5 เส้นทาง หลังจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เสนอทางเลือกมาให้ซุปเปอร์บอร์ดพิจารณา
4 แนวทาง มี 3 แนวทางปรับปรุงทีโออาร์ จากที่เคยจัดทำไว้เดิม อย่างไรก็ตาม
การหารือของคณะกรรมการวันนี้เห็นว่ายังสามารถปรับปรุงให้การจัดทำทีโออาร์รัดกุมมากขึ้นได้อีก
ดังนั้น
จึงอยากให้คณะกรรมการ รฟท.ปรับปรุงแนวทางอีกครั้ง หรือเป็นแนวทางที่ 5
กลับมาเสนอคณะกรรมการเพื่อหารือร่วมกันวันที่ 22 มีนาคมนี้
หากได้ข้อสรุปจะสามารถจัดทำร่างทีโออาร์และเข้าสู่กระบวนการของกรมบัญชีกลาง
เพื่อประกวดราคาได้ทันที
สำหรับข้อท้วงติงที่คณะกรรมการแจ้งให้คณะกรรมการ
รฟท.ทราบ คือ กรอบเวลาที่ 4
ทางเลือกเดิมเคยเสนอมาจะทำให้เวลาการประกวดราคาล่าช้าประมาณ 7-8 เดือน
ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าไม่ควรใช้เวลานานถึงขนาดนั้น สามารถทำได้เร็วกว่าและใช้ระยะเวลา 5-6 เดือนได้
ส่วนการปรับปรุงทีโออาร์แนวทางที่ 5 จะทำให้วงเงินเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ อย่างไรก็ตาม
เมื่อได้ข้อสรุปแนวทางที่ 5 แล้วต้องเสนอรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
นายประสาร ยอมรับว่าระหว่างการประชุมคณะกรรมการได้มีการถกเถียงเรื่องอำนาจของซุปเปอร์บอร์ดและคณะกรรมการ
รฟท. ใครจะมีอำนาจตัดสินใจมากกว่ากัน ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่าเพื่อให้การทำงานที่คณะกรรมการ
รฟท.และฝ่ายบริหาร รฟท.ซึ่งจะเป็นหน่วยปฏิบัติสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องไม่เกิดความขัดแย้งระหว่างซุปเปอร์บอร์ดกับคณะกรรมการ
รฟท. ก็จำเป็นต้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหารือร่วมกันวันที่ 22 มีนาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจัดทำทีโออาร์ของรถไฟทางคู่
5 เส้นทาง เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการ รฟท.เคยเสนอ 4 แนวทางการจัดประกวดราคา
ประกอบด้วย 1.ใช้แนวทางเดิม
คือ รวมงานโยธา งานระบบราง และงานระบบอาณัติสัญญาณ เป็นสัญญาเดียว จำนวน 5
สัญญา 2.แบ่งสัญญาให้มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยยังรวมโยธา ระบบราง
และงานอาณัติสัญญาณไว้ด้วยกัน รวม 10 สัญญา
ต่อมาแบ่งสัญญาโดยแยกงานระบบรางและระบบอาณัติสัญญาณ ออกจากงานโยธา รวม 10
สัญญา และ 4.แบ่งสัญญา โดยแยกงานระบบรางและระบบอาณัติสัญญาณออกจากงานโยธา
และแบ่งงานโยธาให้มีมูลค่า 5,000
ล้านบาท รวม 15 สัญญา.-สำนักข่าวไทย