อุบลราชธานี 11 พ.ย. – อุบลฯเอทานอลมุ่งยกระดับสินค้ามูลค่าเพิ่มขยายพื้นที่มัน1 ล้านไร่ ขยายทั้งโรงงานเอทานอล ไบโอพลาสติก ไบโอเคมิคอล. ไบโอพลาสติก ลงทุนรวม1.5 หมื่นล้านบาทใน5 ปีข้างหน้าวางแผนกระจายหุ้นใน2 ปีข้างหน้า
นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายขยายงาน25-26โครงการ ใน5. ปีข้างหน้าเม็ดเงินลงทุน1.5 หมื่นล้านบาท ทั้งโครงการขยายโรงงานเอทานอลโรงที่2 โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในสายโรงงานแป้งมันที่สามารถนำมาผลิต Biochemical ,fiber , ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ในส่วนนี้จะร่วมทุนกับเกาหลีใต้กำลังผลิต1. แสนตัน/ปี ส่วนสายเอทานอลจะผลิตไบโอเพลาสติก ซึ่งผู้ร่วมทุนคือ กลุ่ม ปตท. กำลังศึกษาความเหมาะสม
นอกจากนี้ วางเป้าหมายผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพอีก15-17 เมกะวัตต์จากน้ำในกระบวนการผลิตและหญ้าเนเปียร์จากปัจจุบันผลิตไฟฟ้าได้ 7.5 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1.9 เมกะวัตต์ และใช้ในกิจการ 5.6 เมกะวัตต์ โดนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในบริษัทเอง 100% ที่ความต้องการ 15-17 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าเดินเครื่องได้ในปี 2561 ประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปัจจุบันบริษัทมีค่าใช้จ่าย 150-180 ล้านบาทต่อปี รวมถึงวางแผนส่งออกผลิตภัณฑ์จึงเตรียมลงทุนท่าเรือ ส่งออกที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ. ชลบุรี
“ตามแผนขยายการลงทุนสายการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังโรงที่ 2 จะมีกำลังผลิต9. แสนลิตรต่อวัน จากกำลังผลิตปัจจุบัน4 แสนลิตรต่อวันเมื่อรวมกับโครงกาHigh value ด้านแป้งมัน และโรงไฟฟ้าแล้วใน2 ปีข้างหน้าจะลงทุนอีก 4-5 พันล้านบาทหาก ผู้ถือหุ้นเห็นชอบแผนระดมทุนในตลาดหลักทรพย์บริษัทก็จะขายไอพีไอใน2ปีข้างหน้าโดยโครงนี้ทำให้ความต้องการมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปัจจุบัน ซื้อจากชาวไร่1.5 หมื่นครอบครัว พื้นที่5 แสนไร่”นายเดชพนต์กล่าว
ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้แก่ นักธุรกิจท้องถิ่นที่ถือหุ้นในสัดส่วน 57.44 % บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) ถือหุ้น 21.28% และบริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด ถือหุ้น 21.28%
สำหรับแผนในระยะเวลา 5 ปี (2560-2564) จะส่งผลให้กำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมปี 2564 อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากปี 2560 คาดอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ปี 2559 อยู่ที่ 700 ล้านบาท และปี 2558 อยู่ที่ 600 ล้านบาท-สำนักข่าวไทย