สกลนคร 11 พ.ย.-สกลนคร จัดงานแสดงความอาลัย ปฐมยาตรา ปวงประชาสุขใจ อาลัยองค์ภูมิพล ประชาชนกว่าแสนคนจุดเทียนแสดงความอาลัยยาวที่สุดในโลก 17 กม.
จังหวัดสกลนคร จัดงานแสดงความอาลัย ปฐมยาตรา ปวงประชาสุขใจ อาลัยองค์ภูมิพล ใช้มวลชนกว่า 150,000 คน เข้าแถวจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมง จ.สกลนคร ไปยังโค้งปิ้งงู ระยะทางกว่า 17 กม. มีการแปรอักษร ๑๐๙ อันเป็นความหมาย พระองค์เสด็จสกลนคร 109 ครั้ง ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และจุดเทียนถวายความอาลัย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.สกลนคร นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าฯ สกลนคร เป็นประธานเปิดงาน ปฐมยาตรา ปวงประชาสุขใจ อาลัยองค์ภูมิพล ขึ้น โดยสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เสด็จแปรพระราชฐานพระทับแรม เมื่อครั้งที่เสด็จเยือนสกลนคร เป็นครั้งแรก ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ซึ่งทางจังหวัดสกลนคร ได้ดูแลรักษาอาคารที่ประทับไว้อย่างดี โดยกิจกรรมมีการจัดนิทรรศการการแสดงให้ นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้รับทราบพระราชกรณียกิจของพระองค์ ที่ทรงมีพระเมตตาต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งทุกคนล้วนมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ มีการนำเอาคุณตาเจริญ ศรีนครินทร์ วัย 95 ปี ผู้ที่รีดฉลองพระองค์ให้ในหลวงร.9 และคุณยายคำมุกข์ คุณยายสมภาร มูลเมืองแสน มาเล่าประสบการณ์ที่รับเสด็จด้วย นอกจากนี้ ยังมีศิลปินรับเชิญจากค่ายแกรมมี่ เอิ้นขวัญ วรัญญา ลูกหลานชาวสกลนคร มาร่วมร้องเพลงในบทเพลง ล้นเกล้าเผ่าไทย และเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด อีกด้วย สำหรับขบวนชาวนา ที่เดินเท้าจาก อ.สว่างแดนดิน ระยะทาง 87 กม. ก็มาถึงบริเวณพิธีเช่นกัน ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่สนามมิ่งเมือง เขตเทศบาลนครสกลนคร นักเรียนและมวลชนพร้อมกัน กว่า 20,000 คน เตรียมการแปรอักษร เป็นตัวเลข ๑๐๙ สกลนคร อันมีความหมายว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระเมตตา เสด็จเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ จ.สกลนคร ถึง 109 ครั้ง นับแต่ปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา รวมระยะเวลา 61 ปี โดยพระองค์ได้แก้ปัญหาให้กับราษฎร นับจาก พระราชทานแหล่งน้ำ แก้ปัญหาความแห้งแล้ง แก้ปัญหาความยากจน สร้างงาน สร้างอาชีพ พระราชทานให้แก่จังหวัดสกลนคร จำนวน 270 โครงการ จนราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลังจากนั้น มวลชนจะเข้ายืนในถนน เริ่มจากสนามมิ่งเมือง ไปยังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เพื่อประกอบพิธีร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมกัน เป็นระยะทางยาว 17 กม.ใช้มวลชนกว่า 150,000 คน และร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัย ซึ่งแต่ละคนที่ออกมาแสดงความจงรักภักดี ล้วนออกมาด้วยความเต็มใจ เพราะทุกคนมีพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 อยู่ในหัวใจ การแสดงออกครั้งนี้ เป็นการตอบแทนที่พระองค์ทรงทุ่มเทอุทิศพระวรกายโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบาก จึงสมแล้วกับคำว่า มหาราชของชาวสยาม.-สำนักข่าวไทย