รวบสาวแสบลักเด็กทารกจาก รพ.นครปฐม

 


นครปฐม 13 มี.ค.-รวบสาวแสบลักเด็กทารกออกจากโรงพยาบาลนครปฐม อ้างคิดถึงลูกที่เพิ่งเสียชีวิตไป สุดท้ายตำรวจเค้นสอบรับสารภาพโกหกสามีว่าท้อง จึงวางแผนขโมยเด็กไปเป็นลูก

13-3-2560 22-32-19 13-3-2560 22-32-52


จากกรณีที่เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุหญิงสาวลักพาตัวเด็กทารกที่เพิ่งคลอดได้เพียง 4 วันหนีออกจากโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาล สามารถบันทึกภาพหน้าคนร้ายไว้ได้ จนล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการนำของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สืบทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ พักอาศัยอยู่ที่โกดังคนงานก่อสร้าง ไม่มีเลขที่ ถนนไผ่เตยใต้ ตำบลห้วยจระเข้ อำเภอเมืองนครปฐม จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบนางสุนีพร ศักดี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3338/151 หมู่ที่ 8 ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมืองนครปฐม ขณะกำลังนอนเลี้ยงทารกน้อยอยู่บนเตียง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือ เพราะเพิ่งเสียลูกชายไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตั้งครรภ์นอกมดลูก และเมื่อเด็กคลอดออกมาทำให้เสียชีวิต ประกอบกับไม่อยากให้สามีต้องผิดหวังที่รู้ว่าลูกเสียชีวิต จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อเข้าช่วยเหลือและตรวจดูอาการเบื้องต้นของเด็ก โดยมี นายเมนเค พ่อของเด็กทารกน้อยชาวพม่า ยืนดูลูกน้อยด้วยความห่วงใย

ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า จากคดีที่เกิดขึ้น หลังจากที่ได้รับแจ้งก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งดำเนินการสืบสวน โดยได้มีการติดตามตัวคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด และมีการสืบสวนหาข่าว กระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา พรากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีไปจากบิดา มารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยไม่มีเหตุอันควร

ด้าน นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการติดตาม จนสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยเคสนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ ที่ทางโรงพยาบาลควรจะมีมาตรการป้องกันและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยไม่ควรให้บุคคลอื่นเข้ามาปะปน และให้มีการแบ่งแยกชัดเจน ควรอนุญาตให้เพียงพ่อและแม่ของเด็กเท่านั้น


นางสุนีพร ศักดี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยมีลูกสองคนกับสามีเก่า แต่ได้เลิกรากัน โดยลูกทั้งสองอาศัยอยู่กับสามีเก่า ส่วนตนมาทำงานก่อสร้างและได้มาอยู่กินกับ นายวีรชัย เนียมคล้าย กระทั่งตั้งครรภ์ ซึ่งในช่วงที่คลอด ได้ไปฝากท้องและคลอดที่โรงพยาบาลราชบุรี โดยที่สามีไม่ได้มาเฝ้า เพราะต้องทำงาน แต่โชคร้ายตั้งครรภ์นอกมดลูก ทำให้เด็กเกิดมาเสียชีวิต ซึ่งตนเองเสียใจมากและเกรงว่าสามีจะผิดหวัง โดยอยากให้ลูกคนนี้เป็นโซ่ทองคล้องใจสามีไว้ ซึ่งหลังจากลูกชายเสียชีวิต ก็ได้มาที่โรงพยาบาลนครปฐมและได้พบกับนายเมนเค และภรรยา ซึ่งมาคลอดบุตรพอดี จึงได้เขาไปทำทีตีสนิท เพราะเห็นเป็นชาวต่างชาติ สัญชาติพม่า โดยวางแผนจะลักพาตัวทารกน้อยไปเลี้ยงเป็นลูก ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเด็กแต่อย่างใด ขณะที่นายวีรชัย ผู้เป็นสามี ก็ได้กล่าวตัดพ้อภรรยาว่าทำไมต้องไปขโมยลูกคนอื่น ทำไมไม่บอกความจริง ก่อนที่ทั้งคู่จะโผเข้ากอดกันและร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางศุนีพร ศักดี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุขโมยเด็กจากโรงพยาบาลนครปฐม ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม โดยตอนแรกผู้ต้องหาอ้างว่า คลอดเด็กเสียชีวิตนั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักเชื่อ และพยายามสอบเค้นอย่างหนัก จนเจ้าตัวยอมรับสารภาพแล้วว่า สาเหตุจริงๆ คือ ไม่ได้ท้อง แต่ที่ต้องโกหก เพราะเห็นว่าสามีอยากมีลูกมาก ส่วนตนเองทำหมันไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จึงวางแผนหลอกสามีเด็กและญาติๆ ว่าตัวเองท้อง ซึ่งก็ไม่มีใครเอะใจ เพราะตนเป็นคนรูปร่างอ้วน จนเมื่อถึงกำหนดคลอด จึงได้วางแผนที่จะขโมยเด็ก เพื่อหลอกสามีและญาติๆ สามี เพราะไม่อยากถูกสามีเด็กทิ้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลุยเอง นำทีมบุกจับบ่อนดอนเมืองในตำนาน

ดอนเมือง 28 ส.ค. – “ภูมิธรรม” นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” ทลายบ่อนเปิดซ้ำซากย่านดอนเมือง รวบ 200 นักพนัน เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ย้ำ “ขบวนการตาสับปะรดของประชาชนคือเบาะแสสำคัญ” ร่วมกันสร้างสังคมปลอดอบายมุข ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ ปิดล้อมทลายบ่อนดอนเมืองในตำนาน เป็นจุดที่โดนทั้งตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง บุกเข้าจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้กรมการปกครองนำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้า-ออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนันกว่า 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียง เป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่ม เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ ในพื้นที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า บ่นพนันดังกล่าวพบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5-10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300-400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย