ฉะเชิงเทรา 15 มี.ค. – ก.เกษตรฯ จดทะเบียนให้กลุ่มเกษตรกร อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ และให้ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่
ข้าวในนาของกลุ่มเกษตรกรนาข้าว ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา แก่เต็มที่ ประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า แปลงนี้เป็นแปลงนาสำหรับทำเมล็ดพันธุ์ ซึ่งจะแจกจ่ายไปยังสมาชิก 240 ราย
พื้นที่ของกลุ่มนาแปลงใหญ่นี้ มีพื้นที่ 5,000 ไร่ ปลูกข้าวรูปแบบแปลงใหญ่มา 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ กรมพัฒนาที่ดินได้มาวิเคราะห์ดินว่า เหมาะแก่การปลูกข้าวสายพันธุ์ใด ต้องเพิ่มธาตุอาหารใดบ้าง เพื่อให้ดินสมบูรณ์ กรมการข้าวสนับสนุนเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิต รวมถึงสอนวิธีดูแลนา โดยลดการใช้สารเคมีกำจัดแมลง
ดินที่ ต.คลองเขื่อน เป็นดินเหนียว เหมาะแก่การปลูกข้าว กข 49 57 และ 61 เป็นข้าวแข็งที่เหมาะสำหรับทำแป้งและอาหารสัตว์ จากการทำบัญชีเปรียบเทียบพบว่า เดิมต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 4,800 บาท/ไร่ ปรับเปลี่ยนแล้วต้นทุนเหลือ 3,700 บาท/ไร่ ลดลงราว 1,000 บาท
ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขต 3 กล่าวว่า เดิมเกษตรกรต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 3-4 ถัง/ไร่ ปัจจุบันใช้เพียง 2-2.5 ถัง ผลผลิตเดิมได้ 800 กิโลกรัม/ไร่ ขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1 ตัน/ไร่ ขายได้ตันละ 6,000-7,000 บาท เป็นไปตามเป้าหมายของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่จะให้ชาวนาลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
หลังเก็บเกี่ยว เกษตรกรจะไม่เผาตอซัง แต่จะให้คลุมหน้าดินไว้ เพื่อคงความสมบูรณ์ของดิน เมื่อจะปลูกข้าวใหม่ค่อยใส่ปุ๋ยคอกแล้วไถกลบพักนา เพื่อปลูกอีกครั้งเป็นนาปี โดยขณะนี้ได้เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวสำหรับขายให้สมาชิกในราคาถูก ไม่จำเป็นต้องไปซื้อจากบริษัทภายนอก ซึ่งราคาแพงกว่ามาก เป็นการลดต้นทุนการผลิตและพึ่งพาตนเองไปพร้อมๆ กัน. – สำนักข่าวไทย