นปช.เสนอยกเลิกคำสั่ง ประกาศ คสช.- ม.44

25002530กระทรวงกลาโหม 15 มี.ค.- กลุ่มนปช. หารือปรองดอง มั่นใจรัฐบาลทำสำเร็จ เสนอยกเลิกคำสั่ง ประกาศ ของคสช. และ มาตรา 44  ชี้ อาจเป็นอุปสรรคการสร้างความปรองดอง ด้านผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม เผย 7 พรรค 1 กลุ่มการเมือง เห็นพ้องปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง – เชิญ กปปส.พูดคุย ศุกร์นี้


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) กล่าวถึงภาพรวมการเสนอข้อคิดเห็นต่อคณะอนุกรรมการ ปยป. ว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ซึ่งนปช.ได้ตอบทุกคำถามของคณะอนุกรรมการ การเข้าพูดคุยในวันนี้ ไม่ใช่เพราะ นปช.เป็นสาเหตุของความขัดแย้ง แต่เพราะกลุ่มนปช.เป็นกลุ่มที่ได้รับผลจากความขัดแย้ง จึงมาให้ความร่วมมือ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเสนอความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองนั้น กลุ่มนปช. เห็นว่า ทุกฝ่ายควรยอมรับความจริง และแสดงเจตนาอย่างบริสุทธิ์ เพื่อผ่านวิกฤตความขัดแย้ง และใช้หลักนิติธรรมกับทุกฝ่าย  ขอให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งในส่วนของนปช.ก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถึงที่สุดด้วย รวมถึงขอให้มีหลักประกันว่าจะไม่มีเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต  เมื่อกระบวนการปรองดองสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากอำนาจอธิปไตยของประชาชน


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอเสนอให้ยกเลิกประกาศระเบียบและคำสั่งต่าง ๆ ของคสช.ทุกฉบับ รวมถึงมาตรา 44 ด้วย เพราะอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความสามัคคีปรองดอง  ซึ่งรัฐบาลและคณะกรรมการ ป.ย.ป. มีหน้าที่สร้างความไว้วางใจระหว่างทุกฝ่าย  ข้อเสนอทั้งหมดไม่ใช่การกดดันรัฐบาล เพื่อให้ปฏิบัติตาม ซึ่งปลัดกระทรวงกลาโหมแจ้งว่า หลังจากนี้ อาจมีการเชิญให้ความเห็นอีกครั้ง โดยกลุ่ม นปช.พร้อมให้ความร่วมมือ

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. มั่นใจว่า กระบวนการปรองดองของปยป. จะสำเร็จ เพราะเห็นความตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี  ที่อัญเชิญพระกระแสรับสั่งที่ให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง สร้างความรัก สร้างความ สุข ความปลอดภัย ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในแผ่นดิน  นปช.ก็เห็นด้วยกับรัฐบาล โดยไม่มีการพูดถึงหรือเสนอประเด็นของเรื่องนิรโทษกรรมและการอภัยโทษ

พล.อ.ต.รังสรรค์ เยาวรัตน์  ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภาพรวมการเข้าให้ข้อคิดเห็นแนวทางสร้างความปรองดองของพรรคการ และกลุ่มการเมือง ต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค.60 ว่า มีทั้งหมด 7 พรรค 1 กลุ่มการเมือง คือ พรรคท้องถิ่นไท พรรครักษ์ธรรม พรรคเสรีนิยม  พรรคคนไทย พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย พรรคเมืองไทยของเรา พรรรคอนาคตไทย และ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) ซึ่งการพูดคุยในวันนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 19 ภาพรวมบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างกันเอง ทุกฝ่ายมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากให้เกิดความปรองดอง มีการเตรียมพร้อมข้อมูลในการมาให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในเชิงสร้างสรรค์


พล.อ.ต.รังสรรค์ กล่าวว่า ในประเด็นการเมือง 7 พรรคและ 1 กลุ่มการเมืองเห็นว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน  เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม นอกจากนี้ยังเห็นว่ามีความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ รัฐต้องแก้ปัญหาความยากจน กระจายรายได้ ลดช่องว่างคนรวยคนจน โดยเสนอให้นำระบบสหกรณ์มาใช้  และต้องมีการปฏิรูปกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ในขณะที่สื่อมวลชนต้องสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ เป็นตัวอย่างที่ดี ควรมีการปฏิรูปสื่อ เช่นเดียวกับระบบราชการ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม กฎหมายและรัฐธรรมนูญก็ต้องปฏิรูปเช่นเดียวกัน

ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในส่วนการเข้าให้ข้อคิดเห็นของกลุ่มแนวร่วมประชาธิไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในวันนี้ ไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นนิรโทษกรรม การยกเลิกมาตรา 44 หรือคำสั่งและประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แต่อย่างใด นปช.ได้ทำเอกสารส่งให้คณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 10 ประเด็น และให้แกนนำเป็นคนพูดในภาพรวมในเวลาที่กำหนดคือ 13.30-16.30 น. ซึ่งนปช.มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเสนอความคิดเห็น เข้าใจว่าอะไรที่เสนอได้ เสนอไม่ได้

“จนถึงวันนี้มีพรรคการเมืองเข้าพูดคุยกับคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 46 พรรค 1 กลุ่มการเมือง ในวันศุกร์นี้จะเชิญ กปปส.มาให้ข้อคิดเห็น หลังจากนั้นจะเชิญภาคประชาสัมคมต่อไป ในส่วนของพื้นที่ภูมิภาค ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็นแล้วจำนวน 60 จังหวัด เหลืออีก 17 จังหวัด ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ข้อมูลทั้งหมดจะส่งต่อให้ กอ.รมน.ภาค และคณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองมาเข้าร่วมเพียง 46 พรรค จากที่ส่งหนังสือเชิญร่วม 70 พรรค พล.อ.ต.รังสรรค์ กล่าวว่า เนื่องจากบางพรรคไม่พร้อม ส่วนหนึ่งก็ใช้วิธีส่งเอกสารเนื่องจากที่ตั้งพรรคอยู่ในต่างจังหวัด ขณะที่ส่วนหนึ่งได้จดทะเบียนตั้งพรรคแต่ไม่มีกิจกรรมทางการเมืองเลยขอไม่เข้าร่วม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]