กรมฝนหลวงฯ เปิดแผนปฏิบัติการปี 60

เพชรบุรี 6 ม.ค. – กรมฝนหลวงและการบินเกษตรตั้งเป้าปฏิบัติการฝนหลวงปีนี้ 4,500 – 5,000 เที่ยวบิน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกพืชของเกษตรกร พร้อมวิจัยนำอากาศยานไร้คนขับช่วยทำฝนหลวงในพื้นที่ยากแก่การเข้าถึง


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงแผนการปฏิบัติการฝนหลวงปี 2560  ว่า ตั้งเป้าปฏิบัติการฝนหลวงปีนี้ 4,500 – 5,000 เที่ยวบิน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกพืชของเกษตรกร ด้วยการขับเคลื่อนผ่านศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคทั้ง 5 ศูนย์ ผ่านหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง  10 – 12 หน่วยปฏิบัติการ ครอบคลุม 25 ลุ่มน้ำหลัก ในพื้นที่ 77 จังหวัด ตามแผนปฏิบัติการ  แบ่งแผนการป้องกันและแก้ไขภัยแล้งออกเป็น 3 ระยะ  คือ ระยะที่ 1 ช่วงเดือนตุลาคม 2559 – กุมภาพันธ์ 2560 เป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งปกติจะหยุดปฏิบัติการฝนหลวงประจำปีประมาณเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป  แต่ เนื่องจากสภาพอากาศมีความชื้นต่ำกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสม จึงตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วที่สนามบินจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมจะเดินทางไปปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือตามการร้องขอของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 5 ศูนย์ ในช่วงที่มีสภาพอากาศเหมาะสมเป็นระยะสั้น ๆ

ส่วนระยะ 2 ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2560 เน้นปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ โดยเริ่มจากบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และขยายพื้นที่ช่วยเหลือบริเวณลุ่มน้ำและภาคอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของสภาพอากาศ โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง เช่น ข้าวนาปรัง ไม้ผล และไม้ยืนต้น และระยะ 3 ช่วงเดือนพฤษภาคม  – กันยายน 2560 เน้นปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำฝนให้พื้นที่เกษตรกรรมช่วงเริ่มฤดูเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจประจำปีเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฤดูฝนล่าช้ากว่าปกติ หรือฝนทิ้งช่วงระหว่างฤดูเพาะปลูก


ขณะที่แผนการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม 2560 เป็นการปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสำรองไว้เป็นน้ำต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงและเพื่อสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะปฏิบัติการจนถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม

ด้านแผนบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า เน้นเฝ้าระวังพื้นที่ภาคเหนือช่วงเดือนมีนาคม  – เมษายน 2560 และภาคใต้ช่วงเดือนตุลาคม 2559 – พฤศจิกายน 2559 และช่วงเดือนพฤษภาคม 2560 – มิถุนายน 2560 โดยปฏิบัติการฝนหลวงและดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อลดความหนาแน่นของหมอกควัน รวมทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้

สำหรับระยะเวลาดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปีงบประมาณ 2560 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ (หน่วยฯ สุราษฎร์ธานี/นครศรีธรรมราช หน่วยฯ หัวหิน/ชุมพร และหน่วยฯ สงขลา) หน่วยฯ สุราษฎร์ธานี ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2560 และ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2560  หน่วยฯ นครศรีธรรมราช ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2560  หน่วยฯ หัวหิน ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 มีนาคม  – 31 พฤษภาคม 2560 และ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2560  หน่วยฯ ชุมพร ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน  – 31 กรกฎาคม 2560  และหน่วยฯ สงขลา ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม 2560


“การวางแผนจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคทั้ง 5 ภาค มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มจำนวนพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวงให้สูงขึ้นและให้มีจำนวนวันฝนตกลงสู่พื้นที่เป้าหมายมากขึ้น เพื่อให้สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิผลและครอบคลุมพื้นที่แห้งแล้งทั่วประเทศ โดยกำหนดเขตพื้นที่รับผิดชอบทำการบินปฏิบัติการฝนหลวงตามแผนและตามที่ได้รับการร้องขอในพื้นที่เป้าหมาย”  อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าว

ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ เตรียมการดำเนินการจัดสร้างศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงที่จังหวัดพิษณุโลกและบุรีรัมย์ คาดว่าจะเสร็จภายในปี 2562 ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ตั้งเป้าแก้ปัญหาภัยแล้งไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 90 พร้อมกันนี้เตรียมพัฒนาประยุกต์ใช้จรวดในการดัดแปรสภาพอากาศและนำอากาศยานไร้คนขับมาประยุกต์ใช้ เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการปฏิบัติการฝนหลวงและการบินเกษตรในพื้นที่ที่เครื่องบินไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติการได้ ถ้าปีนี้ประสบความสำเร็จก็พร้อมใช้ดำเนินการปีหน้าทันที.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

“บิ๊กต่าย” สั่งขยายผลแก๊งทำคอนเทนต์ รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์”

“บิ๊กต่าย” สั่งการขยายผลกระทำผิดของแก๊งทำคอนเทนต์ ที่รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์” ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากการกระทำไหนเข้าข่ายความผิด ก็ดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกกรณี

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก