ภาคใต้ยังฝนตกหนักหลายพื้นที่กรมชลประทานดมเครื่องสูบน้ำช่วยระบายน้ำ

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่ภาคใต้ ยังคงมีฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมทะเลอันดามันกำลังเคลื่อนตัวทางเหนืออย่างช้าๆ มีทิศทางเข้าใกล้ประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำสายหลักต่างๆ มีระดับน้ำสูงขึ้น กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวัง และรายงานสถานการณ์น้ำให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ให้รับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม รวม 8 จังหวัด สรุปสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ได้ ดังนี้


จังหวัดชุมพร ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มบางแห่ง และมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งบางช่วงของลุ่มน้ำคลองละแม คลองหลังสวน และคลองตะโก ทำให้มีน้ำเอ่อเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองหลังสวน บริเวณโรงพยาบาลหลังสวน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 – 0.80 เมตร ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว ส่วนในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ ซึ่งเป็นต้นน้ำของคลองหลังสวนเริ่มมีปริมาณน้ำลดลง และคลองสวี มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ถ้าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วันนี้ โครงการชลประทานชุมพร สำนักงานชลประทานที่ 14 ได้เตรียมพร้อมสนับเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 13 เครื่อง และขนาด 4 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง

จังหวัดสุราษฏร์ธานี มีน้ำท่วมในที่ราบลุ่มต่ำ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก อำเภอบ้านนาสาร อำเภอเมือง อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพงัน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และเส้นทางคมนาคม ส่วนสภาพน้ำท่าในแม่น้ำตาปี ที่สถานีวัดน้ำ X37A อำเภอพระแสง วัดได้ 10.07 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 0.69 เมตร สถานี X.217 ที่อำเภอเคียนซา วัดได้ 2.86 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.14 เมตร และสถานี X.5C ที่อำเภอพุนพิน วัดได้ 1.34 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 0.46 เมตร ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าประมาณภายใน 1 – 2 วัน น้ำจะเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำของอำเภอพระแสง ส่วนอำเภอพุนพินระดับน้ำยังคงขึ้นลงตามอิทธิพลของน้ำทะเล โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานีได้แจ้งเตือน ราษฎร์ที่อยู่ท้ายฝายคลองไชยา โดยเฉพาะบริเวณตลาดไชยา เทศบาลเวียง และอำเภอไชยา ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว


จังหวัดตรัง มีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำของแม่น้ำตรัง ในเขตอำเภอเมือง อำเภอรัษฎา อำเภอวังวิเศษ และอำเภอห้วยยอด โดยพื้นที่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลงและเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีอำเภอวังวิเศษ และอำเภอห้วยยอด ที่ยังมีน้ำท่วมขังและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน
โครงการชลประทานตรัง ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อทราบ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 5 เครื่อง รถขุด จำนวน 1 คัน และรถบรรทุก จำนวน 1 คัน ที่พร้อมจะออกปฏิบัติงานได้ทันที

จังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30 – 0.50 เมตร ส่วนลุ่มน้ำอื่นๆ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอช้างกลาง อำเภอท่าศาลาอำเภอนบพิตำ อำเภอพิปูน อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งสง อำเภอท่าศาลา และอำเภอสิชล ระดับน้ำท่วมสูงโดยเฉลี่ย 0.20–0.70 เมตร

ส่วนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลมาจากต้นเขาคีรีวงลงสู่คลองท่าดี มีปริมาณมาก และได้ไหลผ่านลงคลองระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำในตัวเมืองสูงขึ้นไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30 – 0.80 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์นี้ สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องผลักดันน้ำ ช่วยเร่งระบายน้ำในลุ่มน้ำปากพนัง มีครื่องสูบน้ำ 45 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 44 เครื่อง และลุ่มน้ำอื่นๆ มีเครื่องสูบน้ำ 23 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช 21 เครื่อง อำเภอทุ่งสง และอำเภอท่าศาลา 2 เครื่อง นอกจากนี้ ยังมีเครื่องผลักดันน้ำอีก 8 เครื่อง ที่เข้าไปช่วยเหลือระบายน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช


จังหวัดพัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ 11 อำเภอ และพื้นที่บางส่วนที่อยู่ริมทะเลสาบสงขลา ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอป่าบอน อำเภอศรีบรรพต อำเภอ กงหรา อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอตะโหมด ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 0.30 – 0.60 เมตร แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันมาก น้ำจะมาเร็วไปเร็ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 -2 วันนี้ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำดังกล่าว จะไหลไปรวมที่ทะเลสาบสงขลา ทำให้บริเวณนี้คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 6 – 7 วัน โครงการชลประทานพัทลุง ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 5 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ช่วยเร่งระบายน้ำ พร้อมทั้งแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

จังหวัดนราธิวาส (ลุ่มน้ำโก-ลก ลุ่มน้ำบางนรา และลุ่มน้ำสายบุรี) ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณอำเภอเมือง อำเภอระแงะ อำเภอยี่งอ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอตากใบ รวมไปถึงอำเภอ สายบุรี จ.ปัตตานีด้วย ระดับสูงประมาณ 0.30 – 0.50 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วัน โครงการชลประทานนราธิวาส ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว 4 เครื่อง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก สนับสนุนเครื่องสูบน้ำในเขตโครงการ ขนาด 8 นิ้ว 4 เครื่อง และขนาด 10 นิ้ว 1 เครื่อง กับสูบน้ำด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจำนวน 4 สถานี เพื่อช่วยระบายน้ำในพื้นที่ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางนรา สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 2 เครื่อง

จังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ในเขตอำเภอเมืองปัตตานี อำเภอ ยะหา และอําเภอรามัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 -2 วัน โครงการชลประทานยะลา ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี ได้ดำเนินการขุดลอกกำจัดผักตบชวา หน้าประตูระบายน้ำตุยงและบริเวณด้านท้าย เพื่อช่วยในการระบายน้ำให้รวดเร็วขึ้นแล้ว และยังได้ร่วมกับทางจังหวัดและหน่วยงานในท้องถิ่น บูรณาการเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลงแล้ว ปริมาณน้ำที่ท่วมในแต่ละจังหวัดของภาคใต้จะไหลลงสู่ลำน้ำและไหลลงทะเลในเขตจังหวัดนั้นๆ โดยไม่ส่งผลกระทบกับจังหวัดใกล้เคียง ยกเว้นลุ่มน้ำสายบุรีที่น้ำจะไหลจากจังหวัดนราธิวาสไปลงจังหวัดปัตตานี และลุ่มน้ำปัตตานี ที่น้ำจะไหลจากจังหวัดยะลาไปลงจังหวัดปัตตานีเช่นกัน
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำบริเวณพื้นที่ภาคใต้หลายแห่ง ที่มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำเต็มความจุของอ่างเก็บน้ำ ซึ่งประกอบไปด้วยอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ดังนี้ จังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหุบกะพง จังหวัดกระบี่ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเขียว และอ่างเก็บน้ำคลองหยา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน อ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง จังหวัดตรัง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว จังหวัดพัทลุง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำป่าพะยอม จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ อ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำต่างๆเหล่านี้ ได้มีการระบายน้ำตามศักยภาพ เพื่อรักษาสมดุลของอ่างเก็บน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอยืนยันว่า สภาพตัวอ่างเก็บน้ำและตัวสันเขื่อนของทุกอ่างฯ ยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี และการระบายน้ำส่วนเกินก็ไม่มีผลกระทบต่อตัวอ่างเก็บน้ำแต่อย่างใด ซึ่งทางโครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานชลประทานที่ 14 – 17 ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนและชี้แจงถึงสถานการณ์การระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำดังกล่าวให้กับประชาชนในพื้นที่ท้ายอ่างฯ ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับการช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมในภาคใต้ นั้น นอกจากเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ที่กำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่เดิมแล้ว ขณะนี้กรมชลประทาน ได้ระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องจักร และเครื่องมือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากทั่วประเทศ ลงไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้แล้ว คาดว่าจะทยอยเดินทางถึงพื้นที่ต่างๆ ภายในเย็นวันนี้(7 ม.ค. 60) ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นการนำเครื่องจักร เครื่องมือหนัก เข้าไปช่วยเปิดทางน้ำให้น้ำที่จะระบาย ไหลออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วที่สุดก่อน เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่ และให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย