ภาคใต้ยังฝนตกหนักหลายพื้นที่กรมชลประทานดมเครื่องสูบน้ำช่วยระบายน้ำ

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่ภาคใต้ ยังคงมีฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมทะเลอันดามันกำลังเคลื่อนตัวทางเหนืออย่างช้าๆ มีทิศทางเข้าใกล้ประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำสายหลักต่างๆ มีระดับน้ำสูงขึ้น กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวัง และรายงานสถานการณ์น้ำให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ให้รับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม รวม 8 จังหวัด สรุปสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ได้ ดังนี้


จังหวัดชุมพร ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มบางแห่ง และมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งบางช่วงของลุ่มน้ำคลองละแม คลองหลังสวน และคลองตะโก ทำให้มีน้ำเอ่อเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองหลังสวน บริเวณโรงพยาบาลหลังสวน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 – 0.80 เมตร ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว ส่วนในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ ซึ่งเป็นต้นน้ำของคลองหลังสวนเริ่มมีปริมาณน้ำลดลง และคลองสวี มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ถ้าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วันนี้ โครงการชลประทานชุมพร สำนักงานชลประทานที่ 14 ได้เตรียมพร้อมสนับเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 13 เครื่อง และขนาด 4 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง

จังหวัดสุราษฏร์ธานี มีน้ำท่วมในที่ราบลุ่มต่ำ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก อำเภอบ้านนาสาร อำเภอเมือง อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพงัน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และเส้นทางคมนาคม ส่วนสภาพน้ำท่าในแม่น้ำตาปี ที่สถานีวัดน้ำ X37A อำเภอพระแสง วัดได้ 10.07 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 0.69 เมตร สถานี X.217 ที่อำเภอเคียนซา วัดได้ 2.86 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.14 เมตร และสถานี X.5C ที่อำเภอพุนพิน วัดได้ 1.34 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 0.46 เมตร ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าประมาณภายใน 1 – 2 วัน น้ำจะเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำของอำเภอพระแสง ส่วนอำเภอพุนพินระดับน้ำยังคงขึ้นลงตามอิทธิพลของน้ำทะเล โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานีได้แจ้งเตือน ราษฎร์ที่อยู่ท้ายฝายคลองไชยา โดยเฉพาะบริเวณตลาดไชยา เทศบาลเวียง และอำเภอไชยา ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว


จังหวัดตรัง มีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำของแม่น้ำตรัง ในเขตอำเภอเมือง อำเภอรัษฎา อำเภอวังวิเศษ และอำเภอห้วยยอด โดยพื้นที่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลงและเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีอำเภอวังวิเศษ และอำเภอห้วยยอด ที่ยังมีน้ำท่วมขังและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน
โครงการชลประทานตรัง ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อทราบ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 5 เครื่อง รถขุด จำนวน 1 คัน และรถบรรทุก จำนวน 1 คัน ที่พร้อมจะออกปฏิบัติงานได้ทันที

จังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30 – 0.50 เมตร ส่วนลุ่มน้ำอื่นๆ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอช้างกลาง อำเภอท่าศาลาอำเภอนบพิตำ อำเภอพิปูน อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งสง อำเภอท่าศาลา และอำเภอสิชล ระดับน้ำท่วมสูงโดยเฉลี่ย 0.20–0.70 เมตร

ส่วนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลมาจากต้นเขาคีรีวงลงสู่คลองท่าดี มีปริมาณมาก และได้ไหลผ่านลงคลองระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำในตัวเมืองสูงขึ้นไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.30 – 0.80 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์นี้ สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องผลักดันน้ำ ช่วยเร่งระบายน้ำในลุ่มน้ำปากพนัง มีครื่องสูบน้ำ 45 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 44 เครื่อง และลุ่มน้ำอื่นๆ มีเครื่องสูบน้ำ 23 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช 21 เครื่อง อำเภอทุ่งสง และอำเภอท่าศาลา 2 เครื่อง นอกจากนี้ ยังมีเครื่องผลักดันน้ำอีก 8 เครื่อง ที่เข้าไปช่วยเหลือระบายน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช


จังหวัดพัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ 11 อำเภอ และพื้นที่บางส่วนที่อยู่ริมทะเลสาบสงขลา ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอป่าบอน อำเภอศรีบรรพต อำเภอ กงหรา อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอตะโหมด ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 0.30 – 0.60 เมตร แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันมาก น้ำจะมาเร็วไปเร็ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 -2 วันนี้ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำดังกล่าว จะไหลไปรวมที่ทะเลสาบสงขลา ทำให้บริเวณนี้คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 6 – 7 วัน โครงการชลประทานพัทลุง ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 5 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ช่วยเร่งระบายน้ำ พร้อมทั้งแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

จังหวัดนราธิวาส (ลุ่มน้ำโก-ลก ลุ่มน้ำบางนรา และลุ่มน้ำสายบุรี) ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณอำเภอเมือง อำเภอระแงะ อำเภอยี่งอ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอตากใบ รวมไปถึงอำเภอ สายบุรี จ.ปัตตานีด้วย ระดับสูงประมาณ 0.30 – 0.50 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วัน โครงการชลประทานนราธิวาส ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว 4 เครื่อง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก สนับสนุนเครื่องสูบน้ำในเขตโครงการ ขนาด 8 นิ้ว 4 เครื่อง และขนาด 10 นิ้ว 1 เครื่อง กับสูบน้ำด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจำนวน 4 สถานี เพื่อช่วยระบายน้ำในพื้นที่ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางนรา สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 2 เครื่อง

จังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ในเขตอำเภอเมืองปัตตานี อำเภอ ยะหา และอําเภอรามัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 -2 วัน โครงการชลประทานยะลา ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี ได้ดำเนินการขุดลอกกำจัดผักตบชวา หน้าประตูระบายน้ำตุยงและบริเวณด้านท้าย เพื่อช่วยในการระบายน้ำให้รวดเร็วขึ้นแล้ว และยังได้ร่วมกับทางจังหวัดและหน่วยงานในท้องถิ่น บูรณาการเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลงแล้ว ปริมาณน้ำที่ท่วมในแต่ละจังหวัดของภาคใต้จะไหลลงสู่ลำน้ำและไหลลงทะเลในเขตจังหวัดนั้นๆ โดยไม่ส่งผลกระทบกับจังหวัดใกล้เคียง ยกเว้นลุ่มน้ำสายบุรีที่น้ำจะไหลจากจังหวัดนราธิวาสไปลงจังหวัดปัตตานี และลุ่มน้ำปัตตานี ที่น้ำจะไหลจากจังหวัดยะลาไปลงจังหวัดปัตตานีเช่นกัน
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำบริเวณพื้นที่ภาคใต้หลายแห่ง ที่มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำเต็มความจุของอ่างเก็บน้ำ ซึ่งประกอบไปด้วยอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ดังนี้ จังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหุบกะพง จังหวัดกระบี่ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเขียว และอ่างเก็บน้ำคลองหยา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน อ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง จังหวัดตรัง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว จังหวัดพัทลุง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำป่าพะยอม จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ อ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำต่างๆเหล่านี้ ได้มีการระบายน้ำตามศักยภาพ เพื่อรักษาสมดุลของอ่างเก็บน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอยืนยันว่า สภาพตัวอ่างเก็บน้ำและตัวสันเขื่อนของทุกอ่างฯ ยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี และการระบายน้ำส่วนเกินก็ไม่มีผลกระทบต่อตัวอ่างเก็บน้ำแต่อย่างใด ซึ่งทางโครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานชลประทานที่ 14 – 17 ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนและชี้แจงถึงสถานการณ์การระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำดังกล่าวให้กับประชาชนในพื้นที่ท้ายอ่างฯ ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับการช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมในภาคใต้ นั้น นอกจากเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ที่กำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่เดิมแล้ว ขณะนี้กรมชลประทาน ได้ระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องจักร และเครื่องมือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากทั่วประเทศ ลงไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้แล้ว คาดว่าจะทยอยเดินทางถึงพื้นที่ต่างๆ ภายในเย็นวันนี้(7 ม.ค. 60) ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นการนำเครื่องจักร เครื่องมือหนัก เข้าไปช่วยเปิดทางน้ำให้น้ำที่จะระบาย ไหลออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วที่สุดก่อน เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่ และให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]