กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – กรมทางหลวง เผยยังมีน้ำท่วม 5 จังหวัดภาคใต้ 13 เส้นทาง รถผ่านไม่ได้ 9 แห่ง เร่งซ่อมแซมพร้อมช่วยเหลือหลังน้ำลด
กรมทางหลวง รายงานสรุปเหตุการณ์ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินเส้นทางสายหลักที่จะเดินทางไปสู่ภาคใต้ วันนี้ (8 ม.ค.) มีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง และสุราษฎร์ธานี 13 เส้นทาง (รวม 17 แห่ง) การจราจรสามารถผ่านได้ 8 แห่ง ผ่านไม่ได้ 9 แห่ง ประกอบด้วย ชุมพร การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง คือ ทล.4134 หลังสวน-ละแม พื้นที่ อ.หลังสวน กม.17 คอสะพานขาด ใช้ทางเลี่ยงในชุมชน
ตรัง การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง คือ 1. ทล.419 ถนนวงแหวนรอบเมืองตรัง พื้นที่ อ.เมืองตรัง กม.2 ระดับน้ำสูง 45 ซม. เส้นทางเลี่ยงปิดการจราจร ใช้ ทล.403 2. ทล.4236 ถ.แพรก-ลำนาว พื้นที่ อ.ห้วยยอด กม.11 ระดับน้ำสูง 80 ซม. 3. ทล.4258 บ้านซา-ควนชัน พื้นที่ อ.ห้วยยอด กม.10-11 ระดับน้ำสูง 60 ซม. และ 4. ทล.4347 ตลาดฉุ้น-บ้านซา พื้นที่ อ.ห้วยยอด กม.1-2 ระดับน้ำสูง 55 ซม. เส้นทางเลี่ยงใช้ ทล.4 และ ทล.4258 แทน
นครศรีธรรมราช การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง คือ ทล.4151 กุมแป-ควนหนองหงษ์ พื้นที่ อ.ชะอวด กม.9-12 ระดับน้ำสูง 50 ซม. พัทลุง การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง คือ ทล.4047 ลำปำ-พัทลุง พื้นที่ อ.เมืองพัทลุง กม.2-3 ระดับน้ำสูง 40 ซม. และสุราษฎร์ธานี การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง คือ ทล.4112 สวนแตง-ไชยา พื้นที่ อ.ท่าชนะ กม.41-42 ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.4154 และ ทล.4192 เกาะมุกข์-โมถ่าย ท้องที่ อ.ท่าฉาง กม.5 คันทางสไลด์ด้านขวาทาง
ทั้งนี้ ยังเกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ของภาคใต้ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวง ประกอบด้วย สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชั่วโมง โดยภารกิจหลักตอนนี้ คือ ช่วยให้การจราจรผ่านได้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่สะพานขาด หน่วยงานดำเนินการเองของกรมทางหลวง ได้แก่ ศูนย์สร้างทางและศูนย์สร้างและบูรณะสะพานในพื้นที่ เข้าพื้นที่แก้ไขโดยใช้เวลาอย่างรวดเร็วที่สุด หลักจากน้ำลดจะทำการสำรวจความเสียหาย เพื่อซ่อมแซมสู่ความยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้น เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้ทาง หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง).-สำนักข่าวไทย