กรุงเทพฯ 10 ม.ค .- กระทรวงพลังงานยืนยัน ปตท.แยกธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ตั้งบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (พีทีทีโออาร์) กระจายหุ้นพีทีทีโออาร์ไม่กระทบความมั่นคงพลังงาน เตรียมเสนอ กพช.เดือนกุมภาพันธ์นี้
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่าจากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ทบทวนการปรับโครงสร้างธุรกิจบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่แยกกิจการและสินทรัพย์ในธุรกิจน้ำมันออกมาตั้งบริษัทลูก คือ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (พีทีทีโออาร์) ซึ่ง ปตท.จะถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยกังวลว่าจะทำให้ทรัพย์สินของชาติต้องสูญหาย และกระทบความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งทรัพย์สินเป็นเรื่องทางกระทรวงการคลังพิจารณาเหตุผลเสนอ ครม.ขณะที่ทางกระทรวงพลังงานศึกษาเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และขั้นตอนสุดท้ายทาง ปตท.จะต้องขอมติเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นต่อไป
นายทวารัฐ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานพิจารณาเบื้องต้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงาน เนื่องจากปัจจุบัน ปตท.ก็นับว่าเป็นผู้ประกอบการรายหนึ่งจากที่มีผู้ประกอบการจำนวนมาก ปั๊มทั้งหมดมีกว่า 20,000 แห่ง ประกอบกับมีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เข้ามากำกับดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีเครื่องมือ คือ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกำกับดูแล ปตท.เตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจ้งรายละเอียดไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และ สตง.เร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับความจำเป็นในการดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจของ ปตท.-สำนักข่าวไทย
