สธ.13 ม.ค.-ปลัดฯสาธารณสุข เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รพ.บางสะพาน เผยประชาชนทยอยเข้ารับบริการ มั่นใจวันจันทร์นี้จะสามารถเปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยในได้ เร่งประสานกรมชลประทานหารือการบริหารจัดการน้ำ พร้อมจัดสร้างรั้วป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก
วันนี้ (13 ม.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และรับฟังสภาพปัญหา ผลกระทบต่อสถานบริการจากเหตุน้ำท่วมที่โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ถึงขณะนี้หลายแห่งที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมดเปิดบริการได้ โดยที่โรงพยาบาลบางสะพาน ขณะนี้เปิดบริการแล้ว เช้าวันนี้ (10.00น.) มีผู้ป่วยมารับบริการแล้วกว่า 150 คนและทยอยมาเรื่อยๆ คาดว่าพรุ่งนี้ผู้ป่วยจะกลับมารับบริการตามปกติ ที่ต้องเร่งปรับปรุงคือ แผนกผู้ป่วยใน ของอาคาร 6 ชั้น มั่นใจว่าวันจันทร์นี้ (16 มกราคม 2560) จะเปิดบริการได้ ส่วนอาคารสนับสนุน ซักฟอก โรงครัวขณะนี้ก็ใช้งานได้แล้ว ที่ต้องใช้เวลาในการปรับปรุงคือห้องผ่าตัด ซึ่งในระยะนี้จะส่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนอาคารบ้านพักเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างประเมินความเสียหายเพื่อปรับปรุงต่อไป
“ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน แม้น้ำจะท่วมบ้านแต่ก็เสียสละมากู้โรงพยาบาลร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เปิดบริการประชาชนได้เร็วที่สุด ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ฝากกำลังใจและแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งนี้ได้ส่งทีมแพทย์พยาบาลสนามจากทั่วประเทศลงมาช่วยน้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้กว่า 40 ทีม และจะสับเปลี่ยนลงมาจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ” นพ.โสภณ กล่าว
สำหรับการป้องกันโรงพยาบาลน้ำท่วมในอนาคต จะเร่งประสานหน่วยงานที่บริหารจัดการน้ำ อาทิ กรมชลประทาน หารือระบบการบริหารจัดการน้ำ พร้อมทั้งวางแผนสร้างรั้วโรงพยาบาล เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก นอกจากนี้ จะได้วางแผนการจัดวางอุปกรณ์ สิ่งของเครื่องมือ อาทิ ระบบควบคุมไฟฟ้า ประปา อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ให้อยู่ในที่ปลอดภัย เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ยูนิตทำฟัน เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคซีทีสแกน ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือแพทย์บางส่วนเป็นของบริษัท ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนเป็นอย่างดีที่จะเข้ามาซ่อมแซม
นอกจากนี้ ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศได้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันไม่ให้สถานบริการเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ตามแผนรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชนโดยรวม
สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว เมื่อต้องการจะกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้าน ควรดูแลทำความสะอาดบ้าน บริเวณบ้านให้สะอาด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำโรค เช่น ยุง แมลงวัน และหนู เพื่อป้องกันโรคระบาดหลังน้ำลด และขอให้ตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อาทิ สายไฟ ปลั๊กไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ให้มั่นใจว่าปลอดภัยก่อนนำกลับมาใช้.-สำนักข่าวไทย