กรุงเทพฯ ม.ค.- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯเตือนไทยรับผลกระทบครั้งใหญ่ หลังประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ประกาศเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจตามที่หาเสียง ทั้งด้านการค้า ภาษี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุด สหรัฐฯลดคำสั่งซื้อสิ่งทอไทยแล้วร้อยละ 10
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ไทยต้องเตรียมรองรับผลกระทบจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ นับว่าสวนทางกับเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งเน้นระบบการค้าเสรี ยอมรับเป็นคลื่นสึนามิก้อนใหญ่ จะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก
ยอมรับว่า ขณะนี้ยอดคำสั่งซื้อไตรมาสแรกในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้าจากสหรัฐฯ ลดลงแล้วร้อยละ 10 เพราะสหรัฐฯต้องการดึงกำลังการผลิตทั้งหมดกลับมาผลิตเองในประเทศ และคาดว่าในอตุสาหกรรมอื่น ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกัน ทั้งกลุ่ม อิเล็กทอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า มีสัดส่วนการส่งออกไปอเมริการ้อยละ 38-39 ของการส่งออกทั้งหมด กลุ่มดังกล่าวเริ่มทยอยลดกำลังการผลิต จากความต้องการตลาดสหรัฐลดลง
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีนโยบายจะเข้มงวดกฎระเบียบทางการค้า โดยเฉพาะการใช้แรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเป็นห่วงปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ของไทย หากอุตสาหกรรมประมงไม่เข้มงวด สหรัฐอาจหยุดนำเข้าสินค้าจากไทย รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา ต้องจับตาการกีดกันทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ เพราะสหรัฐ ไม่ยอมให้ประเทศจีนเอาเปรียบการทุบตลาดของจีนอย่างแน่นอน นโยบายของทรัมป์ จึงเป็นเหมือนคลื่นสึนามิ ส่งผลกระแทกต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการค้า การลงทุนชะลอตัวอย่างแน่นอน
ขณะที่ด้านการลงทุนโดยตรงจากสหรัฐฯ และหลายประเทศ ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยจะปรับลดลงด้วย เพราะสหรัฐฯกำลังทบทวนลดการผลิตหันมาลงทุนในประเทศแทน ส่งผลกระทบทั้ง สหภาพยุโรป อังกฤษ ดังนั้น ไทยต้องเร่งปรับตัว หันมาใช้จุดแข็งจากคุณภาพของสินค้าไทย การเจรจากับสหรัฐฯในรูปแบบทวิภาคี และหาตลาดใหม่ เช่น ตลาดอาเซียน CLMV รักษาฐานตลาดของอาเซียนไม่กระทบกับการส่งออกไทย สภาผู้ส่งออก มองว่า การส่งออกปีนี้เติบโตร้อยละ 2-3 ขอประเมินผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ในช่วงไตรมาสแรกก่อน หากนโยบายทรัมป์รุนแรงอาจกระทการส่งออกไทยขยายตัวร้อยละ 0- 2 ภายในปีนี้ -สำนักข่าวไทย