กรมชลฯ เร่งระบายน้ำเพิ่มพื้นที่รับฝนใหม่

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – กรมชลประทานเผยน้ำท่วมสุราษฎร์-นครศรีฯ หลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ  แต่ยังต้องติดตามฝนตกรอบใหม่อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพิ่มพื้นที่รอรับฝนใหม่


นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้วันที่ 23-25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพฝนในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ต่าง ๆ วันที่ 23 มกราคมอยู่ในเกณฑ์ไม่มาก วัดปริมาณฝนสูงสุดในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ ดังนี้ สุราษฎร์ธานี 15 มิลลิเมตร ตรัง 6 มิลลิเมตร นครศรีธรรมราช 21 มิลลิเมตร ปัตตานี 4 มิลลิเมตร และนราธิวาส 42 มิลลิเมตร แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้จนกว่าจะถึงวันที่ 25 มกราคมนี้


สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งกรมชลประทานยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนครศรีธรรมราช บริเวณอำเภอรอบนอกและอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำปากพนังตอนล่างที่ยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 551 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทานใช้เครื่องสูบน้ำ 112 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 69 เครื่อง และได้รับสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรืออีก 60 ลำ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์

ส่วนสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี บริเวณ อ.พระแสง อ.เคียนซา และอ.พุนพิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง  คงเหลือปริมาณน้ำที่ท่วมขังประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 32 เครื่อง เร่งระบายน้ำให้ลงสู่ทะเลโดยเร็ว คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วันนี้

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักอีกระลอกตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือน ซึ่งกรมชลประทานยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องสูบน้ำออกปฏิบัติการทั้งหมด 170 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 112 เครื่อง เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับรองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาอีก โดยจะไม่เกิดผลกระทบน้ำท่วมเพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก อย่างไรก็ตาม ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคใต้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ไปยังจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือต่อไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย