“สมคิด”ยอมรับการจัดอันดับคอร์รัปชั่นไทยลดลงและต้องเร่งหาทางอุดรูรั่ว

กรุงเทพฯ 26 ม.ค.-“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”ยอมรับการจัดอันดับคอร์รัปชั่นของไทยลดลง และต้องหาทางแก้ไข อุดรูรั่ว มั่นใจสถานการณ์ของไทยจะดีขึ้นจากความพยายามดำเนินการด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเปิดโครงการ “พาณิชย์ 4.0 สู่โลกการค้ายุคใหม่” พร้อมกับการเปิดตัวสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy:NEA) โดยยอมรับว่า ผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันไทยหรือ CORRUPTION PERCEPTION INDEX 2016 ที่ได้คะแนนดิบ 35 คะแนน จากเดิมปี 2558ได้คะแนนดิบ 38 คะแนนอย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า เป็นการปรับลดลงมาเพียง 3 คะแนนดิบ เท่านั้นแต่เนื่องจากมีประเทศแข่งขันในการทำให้อันดับดีขึ้นมาก ส่งผลให้ภาพรวมแล้วสถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยลดลงถึง 20 อันดับ แต่จะรับมาพิจารณาว่า การประเมินตกลงมาเพราะอะไร

นายสมคิดกล่าวว่า การประเมินสถานการณ์คอร์รัปชั่นที่ตกลงลงมาในส่วนของ IMD ด้านคะแนนดิบดีไทยขึ้น แต่ว่า การจัดอันดับของ เวิลด์อีโคโนมิคฟอรั่ม(WEF)ไม่ดีขึ้นตกลงมา ขึ้นอยู่กับคำถามที่ใช้ในการสำรวจความรู้สึกของนักธุรกิจเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นในประเทศไทย ผลของคะแนนสองหน่วยงานประเมินต่างกัน ทั้งๆ ที่ทั้งสองหน่วยงานเป็นหน่วยงานที่มีในลักษณะใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเชื่อว่า หน่วยงานผู้สำรวจจะใช้ฮาร์ดดาต้ามากกว่าเพียงการสัมภาษณ์นักธุรกิจ  บางหน่วยงานเรื่องการใช้อำนาจองค์กรแห่งรัฐในการแสวงหาผลประโยชน์เข้าสู่ส่วนตัว ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลในการสำรวจอย่างหนึ่ง ในส่วนนี้สถานการณ์ในประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งสะท้อนว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา วิธีการในลักษณะนี้มีน้อยลง  โดยรวมสถานการณ์คอร์รัปชั่นลักษณะต่างในประเทศผลการสำรวจมีทั้งที่ปรับตัวดีขึ้นและแย่ลง โดยภาพรวมแล้วประเทศไทยอันดับปัญหาคะแนนลดลง 3 อันดับเท่านั้น


สิ่งสำคัญคือ ประเทศไทยไม่ปฎิเสธ แต่รับมาและอย่าเสียกำลังใจ หาวิธีอุดรูรั่ว แต่ไม่ใช่มาพูด มาว่ากัน ประเทศไทยไม่เหลือชิ้นดีเลย เรื่องของคนที่จะต้องสร้างความรับผิดชอบให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สิ่งที่ประเทศไทยดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จะค่อยๆ ทำให้สถานการณ์คอร์รัปชั่นในประเทศไทยดีขึ้น  และเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะต้องทำให้รัฐวิสาหกิจเข้มแข็ง จะไม่มาโทษกันว่าที่ไหนเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทราบข้อเท็จจริงกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แล้วเพิ่งจะมาตีข่าว ฉะนั้นจะไม่โทษกันไปโทษกันมา อย่าให้ประเทศไทยช้ำไปกว่านี้เลย หลายสิ่งหลายอย่างกำลังดีขึ้น เศรษฐกิจกำลังดีขึ้น แต่มีข่าวเป็นเรื่องอดีตแล้วทำให้สิ่งข้างหน้าในอนาคตแย่ลงคุ้มหรือไม่ อย่าไปมองว่า ใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ มองตามเนื้อผ้า คะแนนลงมาก็ทำให้ดีขึ้น พยายามเต็มที่ทุกภาคส่วนช่วยกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาคอร์รัปชั่นรูปแบบต่าง ๆ ที่ประเทศไทยถูกจัลตามอง ได้รับการแก้ไขไปแล้วถึงร้อยละ 70

ส่วนข่าวข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ถูกจับได้ว่าขโมยของในประเทศญี่ปุ่นนั้น นายสมคิด กล่าวว่า  กระทรวงพาณชิย์ดูแลอยู่แล้วและเป็นเรื่องของบุคคล อย่าไปบอกว่าเป็นกระทรวงไม่เกี่ยวกัน ต้องพิจารณาว่า เจ้าหน้าที่สืบมาแล้วเป็นอย่างไร ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ต้องให้ความยุติธรรมกันว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ไม่มีการช่วยเหลืออะไรที่ผิดอยู่แล้ว

นายสมคิด ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์การส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2559 ปรับตัวดีขึ้น แต่หากพิจารณา โครงสร้างสินค้าส่งออกของไทยแล้ว ยังเป็นสินค้าแบบเดิม ราคาสินค้าที่ปรบขึ้นเป็นผลจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงทองคำ ขณะที่ตลาดใหญ่ ๆ เริ่มสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม สินค้าอุสาหกรรมบางตัว เริ่มย้ายฐานการผลิตออกไปประเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ประเทศเวียดนาม  ดังนั้น รัฐบาลและเอกชนไทยจะดีใจไม่ได้  จำเป็นต้องร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมเดิม s-curve ที่มีอยู่เดิมให้เพิ่มมูลค่า และพยายามสร้างสินค้าใหม่คือ New S-Curve เพื่อสร้างรายได้แก่อนาคตส่งออกของไทย


ทั้งนี้ รัฐบาลเริ่มวางพื้นฐานไปแล้ว แต่ต้องใช้เวลา และขณะนี้เริ่มแล้วคือ “เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy)” ที่อยู่บนพื้นฐานสินค้าเกษตร ที่ใช้เทคโนโลยีความรู้ นวัตกรรรม ซึ่งมีนโยบายให้ภายในปีนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้  ด้านผู้ประกอบการรายใหญ่ จะต้องช่วยดูแลคนตัวเล็ก ซึ่งหมายถึง ประชาชน ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) นักธุรกิจรายย่อย ประชาชนที่อยากสร้างธุรกิจของตัวเองได้ เพื่อเติบโตไปด้วยกันหรือ Inclusive Growthซึ่งประเทศจีนใช้ Alibaba ในการช่วยให้คนตัวเล็ก ทำการค้าผ่านผ่านช่องทางออนไลน์หรือ E-commerce : อีคอมเมิร์ซ ในส่วนของประเทศไทย หากผู้ประกอบการรู้จักปรับตัวก็สามารถทำการค้าผ่าน E-commerce ได้เช่นกัน โดยจะโฟกัสกลุ่มบุคคลอายุ 30 ปีจะต้องไม่เป็น salary man โดยอาศัยความรู้ผ่านสถาบันการศึกษา สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ จะจุดประกายให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้าสู่การค้าแบบออนไลน์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ และจะต้องปรับหลักสูตรใหม่ให้ครอบคลุมถึงประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเชื่อมโยงการค้าด้วย โดยร่วมมือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หนุนเกษตรกรทำสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และท่องเที่ยว โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาและให้โควต้าประเทศเพื่อนบ้านมาเรียนรู้ด้วย-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล แจ้งกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 […]

เตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” และคนขับกระบะเข้าให้การ

กทม. 4 ส.ค.-ตำรวจเตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” มาให้การอย่างละเอียด รวมถึงคนขับกระบะ ด้านผู้ก่อเหตุ สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่าคดี “เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันบริเวณคาง ภายในปั๊มน้ำมัน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานได้มากพอสมควรแล้ว ยังเหลือเรื่องของคำให้การของพยาน โดยหลังจากนี้จะเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” ในฐานะผู้ถูกกระทำมาให้การอย่างละเอียด รวมถึงจะเชิญคนขับรถกระบะที่ “เป๊ก” ปีนขึ้นไป ตอนนี้พนักงานสอบสวนพยายามติดต่ออยู่ และพยานต่างๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องเรียกมาให้การเพิ่มเติมด้วย ส่วนนายชุติเทพ ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ทำการสอบปากคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของ “เป๊ก” นั้น ก็เป็นในส่วนของแพทย์.-419.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ

ทำเนียบ 4 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคงยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลังปฏิบัติการตามแผน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้า

4 ส.ค. – สมาคมดาราศาสตร์ไทยแจงปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้าหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 00.00 น. (วันที่ 4 ส.ค.) สมาคมดาราศาสตร์ไทยได้แจ้งว่า เกิดลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้นปรากฏบนท้องฟ้าเหนือหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จากตรวจสอบน่าจะเป็น ดาวตกชนิดลูกไฟ (meteoroid) โดยลักษณะที่ปรากฏเป็นแสงสีเขียว อาจบ่งบอกถึงองค์ประกอบของธาตุนิกเกิล โดยทั่วไปแล้ว ดาวตก (Meteor) เกิดขึ้นเมื่อวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กเคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและเสียดสีกับอากาศที่ระดับความสูงประมาณ 80-120 กิโลเมตร ทำให้เกิดแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่เท่าใด ปริมาณความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากตามไปด้วย จากภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา ดาวตกในครั้งนี้มีขนาดใหญ่และมีความสว่างมากเป็นพิเศษ ความสว่างของมันใกล้เคียงกับดาวศุกร์ ทำให้ถูกจัดเป็นดาวตกชนิด #ลูกไฟ (Fireball) อย่างชัดเจน ส่วนการปรากฏของแสงสีเขียว สามารถตีความได้ว่าดาวตกนี้มีส่วนประกอบของธาตุโลหะอย่างนิกเกิล.-สำนักข่าวไทย