กรุงเทพฯ 25 ม.ค.-กรณีทุจริตสอบนายสิบตำรวจที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง และอีกหลายคดีอื้อฉาวที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง วันนี้ในวงเสวนา “ตำรวจไทยมีไว้ทำอะไร” จึงมีข้อเสนอให้ปฏิรูปตำรวจในหลายด้าน
การทุจริต “โกงสอบนายสิบ” ครั้งล่าสุด เป็นกรณีตัวอย่างการโกงสอบเข้าตำรวจที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายสิบปี ครั้งนี้พบผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดกว่า 500 คน แบ่งเป็นกลุ่มคนวางแผน กลุ่มมือปืนรับจ้างเฉลยข้อสอบ และกลุ่มผู้สอบที่ร่วมทุจริต ยอมจ่ายค่าจ้างให้คนวางแผนรายละ 300,000-500,000 บาท เพื่อแลกกับการได้เป็นข้าราชการตำรวจ อาชีพที่มั่นคงและมีอำนาจมาก นอกจากนี้ ยังมีคดีอื้อฉาวอีกหลายคดีที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง นักวิชาการจากวงเสวนา “ตำรวจไทยมีไว้ทำอะไร” จึงเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเรื่องการสอบสวนที่ไม่เป็นธรรม และการไม่รับคำร้องทุกข์จากประชาชน เพื่อลดสถิติจำนวนคดีให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนประธานหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต ม.บูรพา มองว่า โครงสร้างองค์กรตำรวจมีชั้นยศและตำแหน่งมากคล้ายกับธุรกิจขายตรง ปัจจุบันมีตำรวจกว่า 210,000 นาย ยิ่งทำให้มีการแข่งขันสูง มีการหล่อเลี้ยงในเรื่องผลประโยชน์จากลูกน้องระดับล่าง ขึ้นสู่ผู้บังคับบัญชาระดับบน ต่างตอบแทนกันด้วย การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง และช่วยเหลือกันกรณีกระทำผิด
นอกจากนี้ ในวงเสวนายังมีการเสนอให้ปฏิรูปตำรวจตามแนวทางที่ตำรวจทั่วโลกทำกัน คือ กระจายอำนาจลงสู่การปฏิบัติ ลดสายการบังคับบัญชาให้น้อยลง เพิ่มการตรวจสอบจากประชาชนและภาคประชาสังคม เช่น ตั้งกรรมการอิสระที่มีอำนาจ ทำหน้าที่คล้ายสายตรวจตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบการทำงานคู่ขนานกับคณะกรรมการตำรวจ และให้ประชาชนมีอำนาจตรวจสอบระดับพื้นที่ มีส่วนร่วมในการแต่งตั้งโยกย้าย เนื่องจากตำรวจเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ที่จะมาช่วยดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.-สำนักข่าวไทย