พ.ร.บ.กยศ.ประกาศใช้ นายจ้างรู้ข้อมูลลูกหนี้

สำนักข่าวไทย 31ม.ค.-หลังพ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาประกาศใช้ หัวหน้ารับรู้ประวัติหนี้  ลูกหนี้ยินยอมให้หักเงินและให้กองทุนเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ลูกหนี้เผย พ.ร.บ.เพียงช่วยจัดระเบียบการเงินให้กับคนพร้อมจะจ่าย 


 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สาระสำคัญระบุให้ผู้กู้ยืมเงินต้องให้ความยินยอมในขณะทำสัญญากู้ยืมเงิน เพื่อให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน หักเงินได้ของตนตามจำนวนที่กองทุนแจ้งให้ทราบ, แจ้งสถานะการเป็นผู้กู้ยืมเงินต่อหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่ตนทำงานด้วยภายใน 30 วันนับแต่วันที่เริ่มปฏิบัติงาน ยินยอมให้หักเงินได้พึงประเมินของตน และยินยอมให้กองทุนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในครอบครองของบุคคลอื่น รวมทั้งยินยอมให้กองทุนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน และการชำระเงินคืนกองทุน


อีกทั้งยกเลิกพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2541 นอกจากนี้ยังมีมาตรการเข้มงวดในการชำระคืนเงินกู้เพื่อการศึกษา  หลัง จากที่ผ่านมาประสบปัญหาผู้กู้ไม่ยอมใช้คืนคิดเป็นวงเงินมหาศาล  จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างกว้างขวาง

 

น.ส.จารยา บุญมาก ลูกหนี้ กยศ.ที่ใช้หนี้ต่อเนื่องมากว่า 5 ปี เริ่มกู้ยืมขณะศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับอุดมศึกษา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับใหม่ว่า ตนเห็นด้วยเพราะช่วยจัดระเบียบการเงินให้กับคนพร้อมจะจ่าย  แต่ตนมองว่าสำหรับคนที่มีภาระต่อเดือนจำนวนมากและไม่คิดจะเบี้ยวหนี้ การจ่ายภายหลังแม้ต้องเสียค่าปรับเล็กน้อยก็ยินดี และไม่เห็นด้วยที่ต้องแจ้งรายละเอียดส่วนตัวให้กับนายจ้าง นำมาสู่การกะเกณฑ์เวลาชำระหนี้เสมือนกับการบอกข้อมูลส่วนตัวกับบัตรเครดิต จนก้าวล้ำสิทธิส่วนบุคคล ควรให้สิทธิลูกหนี้จัดการตัวเอง แต่ตนเห็นด้วยกับการขึ้นแบล็คลิสต์ ทำบัตรเครดิต ป้องกันการเปิด ตัดสิทธิการเงินอย่างอื่นเห็นควร


 

น.ส.จารยา กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาควรเริ่มตั้งแต่ต้น ตนมองมากองทุนกยศ.อนุมัติง่ายเกินไป คนกู้กยศ.มี 2 แบบคือคนที่มีฐานะดี กู้ไปซื้อสิ่งของที่อยากได้และนำเงินมาใช้คืนได้ ส่วนแบบที่สองคือคนที่ฐานะยากจนจริงๆ ซึ่งควรได้รับโอกาสมากกว่า แต่ในปัจจุบันกองทุนเป็นการเอื้อในเชิงธุรกิจการศึกษามากกว่า เพื่อให้มีผู้เรียนมากขึ้น โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยปิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้