กสิกรไทยประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้า 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ

กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – กสิกรไทยระบุเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ขณะที่หุ้นไทยปรับลดลง ท่ามกลางความกังวลนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ ประเมินสัปดาห์หน้าเงินบาท 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ขณะที่หุ้นไทยแนวรับ 1,560 – 1,570 จุด และแนวต้าน 1,595 – 1,610 จุด


ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ม.ค.-3 ก.พ.) เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งครั้งใหม่ที่ 35.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลกับผลกระทบจากนโยบายต่างประเทศและการแสดงความเห็นในเรื่องค่าเงินของประธานาธิบดีทรัมป์ นอกจากนี้ สัญญาณที่ไม่ชัดเจนของจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สวนทางกับทิศทางเงินบาทที่ได้รับแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ  โดยวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เงินบาทอยู่ที่ 35.06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับระดับ 35.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา

สำหรับสัปดาห์หน้า (6-10 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยอาจต้องจับตาการตอบรับของตลาดในช่วงต้นสัปดาห์ต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ช่วงต้น) เดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีราคานำเข้าส่งออกเดือนมกราคม สตอกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธันวาคม  นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมกราคมของจีน และผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยวันที่ 8 กุมภาพันธ์ด้วยเช่นกัน


ส่วนดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ม.ค.-3 ก.พ.) ปรับลดลงจากความกังวลต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์  โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,582.95 จุด ลดลงร้อยละ 0.49 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ลดลงร้อยละ 11.66 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 50,710.28 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 641.68 จุด ลดลงร้อยละ 0.34 จากสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม  ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์จากแรงหนุนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

สำหรับสัปดาห์หน้า (6-10 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,570  และ 1,560 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,595 และ 1,610 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ พัฒนาการของการเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐ รวมทั้งการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินจีน หลังจากทางการจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการค้า และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ข้อมูลการค้าของจีน และจีดีพีไตรมาส 4/2559 ของญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง