นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทั้ง 12 คณะของสปท. โดยมีร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมได้จัดลำดับวาระการปฏิรูปเร่งด่วนทั้งหมด 27 เรื่อง เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ ที่เป็นคณะกรรมการย่อยในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.) ว่า วาระการปฏิรูปเร่งด่วน ทั้ง 27 เรื่องนี้จะสามารถผลักดันให้เป็นรูปธรรมได้ภายในปีนี้ และจะสำเร็จก่อนการเลือกตั้งตามโรดแมป
“ประธานสปท.กำชับกรรมาธิการแต่ละคณะไปตรวจสอบว่ามีเรื่องการปฏิรูปใดที่ยังติดขัดหรือติดหล่มเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ป.ย.ป.เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสั่งการแก้ปัญหาต่อไป ส่วนเรื่องการปฏิรูปที่บางส่วนเสนอแต่ยังไม่ได้รับการผลักดัน ขอให้นำกลับมาเสนอใหม่ในที่ประชุมคราวเดียวกัน เพื่อเตรียมเดินหน้าผลักดันให้เป็นรูปธรรม ซึ่งเรื่องปฏิรูปที่เสนอทั้งหมด จะเสนอกฎหมายควบคู่ด้วย เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งขณะนี้มีกว่า 20 ฉบับ” นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่ต้องเร่งผลักดัน คือ การปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การปฏิรูปการบริหารราชแผ่นดิน การกระจายอำนาจส่วนท้องถิ่น และการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคน ส่วนการปฏิรูปตำรวจ ไม่ได้อยู่ในวาระแผนการปฏิรูปเร่งด่วน เพราะได้ดำเนินการไปแล้ว โดยใช้แผนการปฏิรูปของสปท.ร่วมกับแผนการปฏิรูปตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดูแล ที่เริ่มปรับปรุงระบบการบริการประชาชนในโรงพักกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ระบบสืบสวน สอบสวนอยู่ในสตช.หรือไม่.-สำนักข่าวไทย