ปราจีนบุรี 7 ก.พ.- ชุดพญาเสือกรมอุทยานฯ สนธิกำลังตรวจเป้าหมายป่าเขาใหญ่รอยต่อนครนายก-ปราจีนบุรี ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า พบปลูกพืชผลนับหมื่นไร่ เร่งพิสูจน์ให้ชัดเจนก่อนยึดคืน
เมื่อเวลา 12.00 น. (7 ก.พ.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพญาเสือ หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย 2 จังหวัด คือ หมู่ที่ 4 ต.นาหินลาด อ.เมือง จ.นครนายก และหมู่ 15 ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นพบว่าในพื้นที่นครนายกพบการบุกรุกปลูกต้นไผ่ตงหลายร้อยต้น ส่วนปราจีนบุรีบุกรุกปลูกพืชไม้ผล บางแปลงมีเพียงชื่อครอบครองแต่ไม่มีตัวตน หรือเป็นชื่อของอีกคนหนึ่ง รวม 2 จังหวัดประมาณกว่า 10,000 ไร่ เฉพาะนครนายกประมาณ 9,000 ไร่ ปราจีนบุรี 6,000 ไร่ ซึ่งชุดพญาเสือของกรมอุทยานฯ จะใช้มาตรการทวงคืนผืนป่า
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ชุดพญาเสือร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร ดีเอสไอ รวมทั้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เข้ามาตรวจสอบทั้ง 2 จังหวัด คือนครนายก และปราจีนบุรี ได้เข้ามาสำรวจระหว่างพื้นที่ที่มีความครอบครอง สิทธิตามมติ ครม. ในส่วนของนครนายกจากการแปลภาพถ่ายเป็นสภาพป่า ซึ่งเป็นป่าที่สมบูรณ์ วันนี้มาพิสูจน์แล้วว่าจังหวัดนครนายกมีการปลูกไผ่แซมในป่าธรรมชาติ แสดงสิทธิในการครอบครอง บุคคลที่เข้ามาปลูกคือผู้นำ ซึ่งตัวเองไม่มีสิทธิไปปลูกในแปลงของคนอื่น เราเห็นชัดเจนว่าสภาพป่าในอนาคตมีสิทธิเป็นป่าไผ่ทั้งหมด ไม้ที่เป็นไม้ห้าชั้นซึ่งเป็นป่าต้นน้ำจะสูญหายทั้งหมด ส่วนจังหวัดปราจีนบุรีซึ่งเป็นรอยต่อทั้งหมด พื้นที่มีความครอบครองสิทธิตามมติ ครม. ทั้งหมด 6,000 ไร่ ทำกินอยู่แล้วประมาณ 3,000 ไร่ จะพิสูจน์สิทธิตามมติ ครม. ว่าครอบครองมาก่อนหรือหลัง ซึ่งเป็นป่าที่มีความลาดชันสูง มีความอุดมสมบูรณ์ของป่ายังมีการเข้าไปใช้ประโยชน์ ส่วนที่มีความครอบครองอยู่แล้วต้องพิสูจน์สิทธิกันต่อไป จะไม่ดำเนินการแจ้งความ ส่วนที่บุกรุกใหม่ ทางอุทยานฯ เน้นชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย