ม.ล.ปนัดดา ย้ำความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อสังคมไทย

สโมสร ทบ. 8 ก.พ.- ม.ล.ปนัดดา ย้ำสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญยิ่งต่อสังคมไทย และมีบทบาทสำคัญในการรวมประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว แนะคนไทยน้อมนำคำสอนของรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ เพื่อแสดงความรำลึกถึงพระองค์ ขณะเดียวกัน ร่วมกันนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าภายใต้ร่มพระบารมีรัชกาลที่ 10

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บรรยายในหัวข้อ “บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์กับการปกครองอธิปไตยของประเทศไทยให้พ้นจากมหาอำนาจ รวมถึงแนวโน้มสถานการณ์ของโลก และการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับชาติต่างๆ ในอนาคต” ในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “บทบาทมหาอำนาจที่มีผลกระทบต่อการกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศไทย” ณ สโมสรทหารบก วิภาวดี มีนักศึกษาหลักสูตรหลักประจำวิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันป้องกันประเทศ วิทยาลัยการทัพเรือ และวิทยาลัยการทัพอากาศ เข้าร่วมกว่า 400 คน

ม.ล.ปนัดดา กล่าวตอนหนึ่งว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่มีความสำคัญยิ่งต่อสังคมไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการรวมประเทศไทยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สถานภาพของพระมหากษัตริย์คือเป็นประมุขของประเทศ มีพระราชอำนาจเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจ และพระบรมเดชานุภาพเด็ดขาดแต่พระองค์เดียว ดังนั้น การดำเนินนโยบายต่างๆ ก็จะเป็นการดำเนินนโยบายโดยพระองค์เอง แต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สถาบันพระมหากษัตริย์ก็อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

“จนถึงทุกวันนี้ คนไทยยังคงร้องไห้ และระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ต่างจากวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่เสด็จสวรรคต ทุกคนอยากให้พระองค์ทรงอยู่กับคนไทยตลอดไป ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการน้อมนำพระราชดำรัส พระราชดำริ และคำสอนพระราชทานมาปฏิบัติ” ม.ล.ปนัดดา กล่าว

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้รับการยกย่องและชื่นชมจากประเทศอาเซียน ว่าเรามีพระมหากษัตริย์ที่เป็นแบบอย่างที่ดีงาม และเป็นที่เคารพรักยิ่งของประชาชนชาวไทย รวมถึง ประชาชนอาเซียนทั้งมวล นอกจากนี้ ประชาชนคนไทยเป็นแบบอย่างในเรื่องของความรักความสามัคคี ที่ได้เรียนรู้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ทรงงานหนัก จนทำให้ต่างประเทศยอมรับ และลบภาพลักษณ์ที่ไม่ดีที่มีต่อประเทศไทยไปหมดสิ้นจนมาถึงทุกวันนี้

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ที่ทรงเป็นที่รักและหวงแหนของพระองค์ ดังนั้น เราทุกคนต้องช่วยกันนำพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าใต้ร่มพระบารมี เพื่อให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ทรงสถิตสถาพรตลอดไป” ม.ล.ปนัดดา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสัมมนาในครั้งนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกปัจุบัน เช่น ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ สถานการณ์การก่อการร้าย ภาวะเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการแยกและแบ่งการปกครอง รวมถึง ท่าทีของมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย อังกฤษ อินเดีย ที่มีต่อเหตุการณ์เหล่านั้น.- สำนักข่าวไทย