ศาลนครพนมสืบพยานรื้อคดีครูจอมทรัพย์ วันที่ 2


นครพนม 9 ก.พ. – ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ยังคงเกาะติดความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดนครพนมนัดสืบพยานเพื่อพิจารณารื้อคดี “ครูจอมทรัพย์” วันที่ 2 ซึ่งเป็นการสืบพยานฝั่งผู้ร้องที่เหลือ ก่อนจะมีการสืบพยานฝั่งอัยการ  

วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการสืบพยานเพื่อขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ ตามคำร้องของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูใน จ.สกลนคร ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกในคดีขับรถชนคนตายโดยประมาท ซึ่งวันนี้ (9 ก.พ.) มีการสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง จำนวน 3 ปาก ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่มีการสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก จากทั้งหมด 9 ปาก


101.1 101.2

พยานฝ่ายผู้ร้องทั้ง 3 ปาก ประกอบด้วย นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ และนางทองเรศ วงศ์ศรีชา ซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548 และนายทักษิณ ไขสีดา เจ้าของรั้วลวดหนามที่สามีครูจอมทรัพย์ขับรถไปครูดจนเกิดรอยที่ตัวรถด้านซ้าย เมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ โดยนางทัศนีย์ ขึ้นเบิกความยืนยันว่า เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่เกิดเหตุ 11 มีนาคม 2548 หลังเกิดอุบัติเหตุเห็นผู้ชายสูงประมาณ 170 ซม. ออกมานั่งดูผู้เสียชีวิต ก่อนขับรถออกไป พร้อมระบุว่า เห็นเลขทะเบียน ตัวอักษรแรก คือ บ และเห็นตัวเลข 56 ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่สามารถจดจำได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และในชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้อ่านสำนวนเอง เพราะสายตายาว พนักงานสอบสวนอ่านคำให้การในชั้นสอบสวนให้ฟัง ซึ่งตนเองไม่ได้ทักท้วงก่อนเซ็นชื่อไป อัยการซักค้านในประเด็นคำให้การหลายครั้งไม่ตรงกันในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล โดยเฉพาะหมวดตัวอักษรและเลขทะเบียนรถคันที่เกิดเหตุ รวมทั้งระยะห่างระหว่างรถจักรยานยนต์ของพยานกับจุดเกิดเหตุ

101.3 101.4


ด้านครูจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ร้อง วันนี้ได้เดินทางมาร่วมรับฟังการสืบพยานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยก่อนเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อคืนนอนหลับสบายดี ขณะที่นายพงศา ราตรี ทนายความ ระบุการขึ้นสืบพยานทั้ง 3 ปาก วันนี้ จะครอบคลุมในประเด็นที่ชี้ให้เห็นว่า ครูจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ส่วนนายสับ วาปี ที่ออกมาระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง จะขึ้นให้การในฐานะพยานวันนี้หรือไม่ ขอให้รอดูในศาล

101.5 101.6

ส่วนในช่วงบ่าย ตามกำหนดเดิมจะเป็นการนำพยานฝ่ายอัยการผู้ร้องคัดค้านขึ้นเบิกความ ซึ่งมีการยื่นบัญชีพยาน 42 รายการ เป็นพยานบุคคล 14 ปาก ที่เหลือเป็นพยานเอกสารและวัตถุพยาน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”