นักธุรกิจร้องทหารลูกชายถูกรุมทำร้ายสาหัส


ขอนแก่น 16 พ.ย.- นักธุรกิจพาลูกชายวัย 17 ปี ร้องเรียนกับทหาร หลังถูกเจ้าของร้านอาหารหลัง ม.ขอนแก่น และการ์ดของร้าน 7 คน รุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส พร้อมยึดไอโฟน 7 ไว้ ให้นำเงิน 1 หมื่นมาไถ่คืน

17-11-2559 0-21-47 17-11-2559 0-22-37


นายอนุพงษ์ เรืองจิรภัทร อายุ 66 ปี ประธานกรรมการบริษัท พุฒิธร คอนสตรัคชั่น จำกัด พาลูกชายวัย 17 ปี สภาพหน้าตาเขียวช้ำ เลือดคั่งในลูกตาทั้ง 2 ข้าง เข้าร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น โดยมี พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพื้นที่ มทบ.23 เป็นผู้รับเรื่อง

นายอนุพงษ์ กล่าวว่า เช้าวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่เห็นลูกชายตื่นมารับประทานอาหารเช้า จึงปลุกให้ตื่น ก็เห็นลูกชายในสภาพหน้าตา ร่างกายเขียวช้ำไปทั่ว ตาปิดทั้ง 2 ข้าง สอบถามจึงรู้ว่าคืนวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายพร้อมเพื่อนวัยเดียวกันรวม 4 คน เข้าไปเที่ยวที่ร้านอัพทาวน์หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกการ์ดและเจ้าของร้านรุมทำร้ายร่างกาย และยึดโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ไป โดยบอกว่าให้หาเงิน 10,000 บาท ไปไถ่คืน จึงได้พาลูกชายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 13พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือส่งตัวเข้าตรวจร่างกายที่ รพ. ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า รักษาตัวต่อเนื่อง 14 วัน แต่ไม่ได้นอนรักษาตัวรับยาไปกินที่บ้าน เวลาผ่านมาก็ไม่มีความคืบหน้า จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทหาร เพื่อให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ขณะลูกชายวัย 17 ปี เล่าว่า เข้าไปเที่ยวที่ร้านอาหาร หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประจำ ในคืนเกิดเหตุคืนวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เข้าไปนั่งในร้านตั้งแต่ 20.30-23.00 น. ได้พบกับแฟนสาว จึงออกไปคุยที่ริมถนนฝั่งตรงข้ามกับร้านและมีเรื่องกับแฟนสาว จากนั้นถูก นายวินัย หัวหน้าการ์ดของร้านอาหารดังกล่าว พร้อมพวกมาลากตัวไปที่หน้าร้านและรุมทำร้ายร่างกาย ต่อมาถูกเจ้าของร้านมาลากตัวไปที่ลานจอดรถ พร้อมกับลงมือตบหน้า เตะ ต่อย หลายครั้ง บอกว่าในฐานะที่เป็นคนสร้างปัญหาความวุ่นวายให้เอาเงินมาจ่าย 10,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินจ่าย เจ้าของร้านอาหารจึงยึดโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ไว้ แล้วปล่อยตัวในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 13 พ.ย. จึงรีบเดินทางกลับบ้าน และช่วงสายวันเดียวกันพ่อก็พาเข้าแจ้งความ


พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า ร้านลักษณะดังกล่าวมีลักษณะการประกอบการคล้ายสถานบริการ จะไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ แต่น่าจะมีใบอนุญาตให้ขายสุรา บุหรี่ อาหาร ส่วนการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั้น การยึดทรัพย์ของบุคคลอื่นไปโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เข้าลักษณะเป็นความผิดลักทรัพย์ และหากทำให้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นเสียหาย เป็นความผิดทำให้เสียทรัพย์ ส่วนการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งจะเร่งให้เกิดความยุติธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่ายโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ทราบว่า สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ มีการตรวจความเรียบร้อยตามจุดเสี่ยงและสถานบันเทิงประจำทั้งสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ การทำร้ายร่างกาย หากไม่มีใครแจ้งเจ้าหน้าที่ก็อาจจะมีที่เล็ดลอดสายตาบ้าง ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ร้านอาหารนั้น ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น แล้ว พนักงานสอบสวนได้ประสานชุดสืบสวน สภ.เมือง เพื่อลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งรวบรวมหลักฐานจากพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด เพื่อเรียกตัวคนที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

ปชช.ทยอยกลับภูมิลำเนา จราจรมุ่งหน้าเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่น

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปริมาณรถมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือและอีสาน เริ่มหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวตามกันได้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลและอำนวยความสะดวกการเดินทาง

นายกฯ ระดมทีมสร้างความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย

“นายกฯ แพทองธาร” ระดมทีมท่องเที่ยว ทำความเข้าใจ สร้างภาพลักษณ์ไทยไม่อันตราย หลังแผ่นดินไหว ตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวแทนยอดที่หาย ดึงชาติอื่นแทนจีน

ยังมีหวัง! พบแสงไฟใต้ซากโซน B คาดเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม พบแสงไฟใต้ซากอาคารบริเวณโซน B คาดเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากผู้สูญหาย เชื่อมีความหวังพบผู้รอดชีวิต 90% เร่งส่องกล้องตรวจสอบใต้โพรง