พระเจ้าอยู่หัว ร.9 กับการแก้ปัญหาคนและช้างป่า


ประจวบคีรีขันธ์ 17 พ.ย.-ช่วงนี้จะพาไปดูตัวอย่างการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างคนกับช้างป่าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชดำริว่า ช้างป่าควรอยู่ในป่า ซึ่งก่อให้เกิดการร่วมฟื้นฟูสภาพป่า และปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนในชุมชนโดยรอบต่อช้างป่า จนเกิดเป็นความผูกพัน พึ่งพาอาศัยกันและกัน

e1 e2


กุยบุรีโมเดล คือ ต้นแบบแก้ไขปัญหาความขัดแย้งคนกับช้างป่าที่ดีที่สุดของเมืองไทย จากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์คู่บ้านคู่เมือง อันเกิดจากการบุกรุกทำไร่สับปะรด ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ทำให้ช้างป่าบางส่วนออกมากินพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน กลายเป็นปัญหาความขัดแย้งลุกลามใหญ่โต ทำให้ช้างป่าหลายตัวถูกฆ่า กระทั่งมีการขอคืนพื้นที่อุทยานเกือบ 20,000 ไร่ และฟื้นฟูให้ป่ากลับมาสมบูรณ์ดังเดิม

e3 e4

“ช้างควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องทำให้ป่านั้นมีอาหารช้างเพียงพอ การปฏิบัติคือ ให้ไปสร้างอาหารในป่า เป็นแปลงเล็กๆ และกระจาย กรณีช้างออกมาที่ชายป่าต้องให้ความปลอดภัยกับช้าง” พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 4 กรกฎาคม 2542 คือเครื่องยึดเหนี่ยวและหลวมรวมดวงใจทุกภาคส่วนให้เป็นหนึ่งเดียว ก่อเกิดเป็นกลุ่มเพาเวอร์ออฟกุยบุรี เพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่า สร้างแหล่งอาหาร แหล่งน้ำให้กับช้างป่าและสัตว์ป่านานาชนิด เช่น การทำโป่งเทียม กระทะน้ำ รวมถึงกำจัดวัชพืช ผลที่ได้นอกจากแก้ไขปัญหาความขัดแย้งคนกับช้างป่าอย่างยั่งยืนแล้ว ยังเกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กุยบุรี ซาฟารีเมืองไทย ที่สร้างรายได้แก่ชุมชนด้วย


e5 e6

เมื่อชุมชนโดยรอบอุทยานแห่งชาติกุยบุรีร่วมล้อมรั้วด้วยหัวใจ ปัญหาความขัดแย้งของคนกับช้างป่าจึงหมดไป กลายเป็นความรัก ความเข้าใจ และพึ่งพาอาศัยกันและกัน ทำให้ปัจจุบันช้างป่ากุยบุรีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็น 237 ตัว จากเมื่อปี 2540 มี 80 ตัว

Capture e8

มีการคาดการณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ช้างป่ากุยบุรีจะเพิ่มจำนวนเป็น 600 ตัว จึงมีแผนการเชื่อมผืนป่ากุยบุรีและป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ให้เป็นผืนเดียวกัน เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของช้างป่า โดยชุมชนและทุกภาคส่วนพร้อมมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ช้างป่าได้อยู่กับป่า ตลอดจนให้คนกับช้าง สามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย