ชาวเลหาดราไวย์ปักหลักไม่ยอมให้ จนท.รื้อถอนบ้านหลังแพ้คดี

 


ภูเก็ต 23 ก.พ.-ชาวเลหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต ปักหลักไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รื้อถอนบ้าน หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้รื้อบ้าน 2 หลังออกจากพื้นที่ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว

วันนี้ถือเป็นวันครบตามระยะเวลาที่กรมบังคับคดีกำหนดให้ชาวเล 2 ครอบครัว ตามคำสั่งศาลฎีกาที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ให้รื้อถอนบ้านจำนวน 2 หลังของนายมะเหร็น บางจาก และนายอานัน บางจาก หลังทั้งสองเป็นจำเลยในข้อหาบุกรุกพื้นที่ของนายสุเทพ มุขดี และนายทวี มุขดี จนมีการฟ้องร้องกันตั้งแต่ปี 2552 โดยพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวน 2 งาน 37 ตาราวา ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต


10 11

โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีชาวเลจำนวนมากเดินทางมารวมกลุ่มกันนั่งล้อมบ้านทั้ง 2 หลังที่เจ้าหน้าที่จากกรมบังคับคดีมีแผนเตรียมรื้อถอนตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถรื้อถอนบ้านทั้ง 2 หลังได้สำเร็จ เนื่องจากชาวเลที่อาศัยอยู่ในบ้านทั้ง 2 หลังไม่ยินยอม โดยมีการระดมเพื่อนบ้านและเด็กเล็กเข้ามาขัดขวาง

นางขวัญใจ บางจาก หนึ่งในสมาชิกของบ้านที่ต้องถูกรื้อถอน ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รื้อถอนบ้านอย่างแน่นอน แม้ว่าคดีจะถึงที่สุดแล้ว และรู้ว่าการกระทำนี้อาจผิดกฎหมายก็ตาม เนื่องจากตนและสมาชิกในบ้านอีก 10 คน ไม่มีที่อยู่อื่น นอกจากบ้านหลังนี้เพียงหลังเดียว ทั้งนี้ หากรัฐยื่นข้อเสนอให้ไปอาศัยในพื้นที่อื่นก็ไม่พร้อมจะรับ เนื่องจากตนเองเกิดและโตในชุมชนแห่งนี้


12 13

ด้านนายสุเทพ มุขดี ผู้ถือครองเอกสารสิทธิ ระบุว่า ที่ดินผืนที่กำลังเป็นข้อพิพาทนี้ตนเองได้รับมรดกมาจากผู้เป็นบิดา จำนวน 2 งาน 37 ตารางวา ตามโฉนดเลขที่ 7957 ซึ่งออกเมื่อปี 2508 เป็นมรดกเพียงอย่างเดียวที่มี โดยในอดีตบิดาของตนเห็นว่าชาวเลลำบากจึงให้เข้ามาอาศัยอยู่ในที่ดินแปลงนี้ชั่วคราว โดยมีการทำข้อตกลงเป็นหนังสือให้เช่ารายปี ปีละ 1,000 บาท แต่บิดาไม่เคยรับเงินจากชาวเลเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งบิดาเสียชีวิต ตนซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว อยากกลับมาอาศัยที่นี่ จึงขอให้ชาวเลย้ายออกจากพื้นที่ แต่ชาวเลไม่ยินยอม จนต้องมีการฟ้องร้องกันในชั้นศาลตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ ตนอยากขอความเป็นธรรมจากผู้บังคับใช้กฎหมายให้ดำเนินการรื้อถอนบ้านชาวเลออกจากที่ดินของตน เนื่องจากที่ผ่านมาตนเคารพกฎหมายมาโดยตลอด ล่าสุดทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งอาสาสมัคร ตำรวจ และทหาร เข้ามาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย