ปทุมธานี 23 ก.พ.-บรรยากาศที่ตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามฝั่งประตู 5-6 วัดพระธรรมกาย หลังมีเหตุตึงเครียดเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกศิษย์วัด คณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายได้ออกมานั่งรวมตัวสวดมนต์บริเวณทางเข้าตลาด ก่อนตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรียกร้องเจ้าหน้าที่ยกเลิกการใช้มาตรา 44 พร้อมเปิดทางนำเสบียงเข้าไปส่ง
บรรยากาศที่ประตู 5-6 วัดพระธรรมกาย ตลอดทั้งวันมีตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรภาค 7 จ.ราชบุรี มาสลับเปลี่ยนเวร ตรึงกำลังดูแลพื้นที่ตรงจุดนี้ ส่วนถนนเลียบคลองแอนที่จะเดินเข้าไปบริเวณประตู 6 พระสงฆ์และลูกศิษย์วัดพระธรรมกายยังคงนั่งสวดมนต์ส่งผ่านเครื่องขยายเสียงอยู่ภายในเต็นท์ โดยช่วงเช้า พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ยื่นข้อเรียกร้องต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หลังทหารและตำรวจเข้าตรวจค้นอาคารบุญรักษา พร้อมนำลวดหนามมากั้นพื้นที่จนเกิดการยื้อและปะทะกันเล็กน้อย โดยขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น ส่วนที่จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ขอความเมตตาและเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ ม.44 ซึ่งหากเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น ไม่จำเป็นต้องประกาศออกสื่อ และวัดพร้อมพูดคุยเจรจาอย่างสันติ
แต่ไฮไลท์ช่วงบ่ายโมงที่ตลาดกลางคลองหลวง ฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดพระธรรมกาย ประตู 5 เกิดความตึงเครียดขึ้น เมื่อได้ขับรถควบคุมผู้ต้องหาติดเครื่องขยายเสียงมาจอดไว้ในพื้นที่ตลาด ทำให้พระสงฆ์และลูกศิษย์วัดที่นั่งสวดมนต์อยู่ด้านในลุกฮือขึ้นออกมาขอให้เจ้าหน้าที่นำรถออกไปจากพื้นที่ จนเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะต้องถอยรถออกจากจุดเดิมมาจอดไว้ที่ริมถนนคลองหลวงแทน
นายศิริชัย ไตรสารศรี นายอำเภอคลองหลวง ที่เดินทางมาพร้อมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยพูดผ่านเครื่องขยายเสียง ขอความร่วมมือพระสงฆ์และลูกศิษย์วัดให้ออกจากบริเวณนี้ หลังเจ้าของตลาดได้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ไม่ยินยอมให้ใช้พื้นที่ในการรวมตัวชุมนุม ตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ว่าพื้นที่วัดพระธรรมกายและโดยรอบเป็นพื้นที่ควบคุม กำหนดเวลาให้ออกจากจุดนี้ภายใน 3 วัน ก่อน เจ้าหน้าที่ยอมถอยรถควบคุมผู้ต้องหากลับไปยัง สภ.คลองหลวง ทำให้สถานการณ์คลายความตึงเครียดลง
ต่อมาคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายได้ออกมานั่งรวมตัวสวดมนต์บริเวณทางเข้าตลาด พร้อมชูป้ายที่มีข้อความ พร้อมนำเสบียงออกมาชูถือไว้เหนือศีรษะด้วย ก่อนที่จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวโดยตัวแทนกลุ่มอริยะ 072 ออกมาอ่านแถลงการณ์เรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ยกเลิกการใช้มาตรา 44 ที่ระบุว่าวัดพระธรรมกายและโดยรอบเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดทางนำเสบียงเข้าไปส่งให้พระสงฆ์และลูกที่อยู่ภายในวัด เนื่องจากขณะนี้ผู้ที่อยู่ภายในนั้นเริ่มขาดแคลนเสบียง พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่าจะรวมตัวเดินขบวนไปยังประตู 7 จากนั้นพระสงฆ์และคณะลูกศิษย์เดินลอดใต้สะพานข้ามฝั่งไปยังทางเข้าประตู 5 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังอยู่ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องขอนำเสบียงเข้าไปให้ผู้ที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกาย
แต่ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินธจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ออกมาชี้แจงว่า ไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่วัดพระธรรมกาย เนื่องด้วยเป็นพื้นที่ห้ามเข้ามาตรา 44 ต้องให้ดีเอสไอเป็นผู้ตัดสินใจ ก่อนที่จะมีการประสานกัน และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ เดินทางมาที่ประตู 5 พร้อมรับปากว่าจะนำสิ่งของเสบียงเข้าผ่านทางประตู 7 ซึ่งฝั่งศิษย์พระธรรมกายได้ขอให้มีตัวแทนเป็นเณรรูปหนึ่งเข้าไปดู ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังตลาดเช่นเดิม
ขณะนี้พระสงฆ์และลูกศิษย์ก็ยังคงนั่งสวดมนต์กันอยู่กลางตลาด ขณะที่ด้านหน้าจับตาดูว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนการจราจรโดยรอบวัดพระธรรมกายตลอดทั่งวันเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสอบรถที่จะเดินทางผ่านเส้นทางคลองหลวง รวมทั้งในถนนแยกย่อยรอบพื้นที่วัดพระธรรมกายเพิ่มอีกหลายจุด ทำให้รถที่เคลื่อนผ่านต้องชะลอความเร็ว.-สำนักข่าวไทย