สนามหลวง 24 ก.พ.-รองนายกฯนำคณะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและซักซ้อมการบวงสรวงและยกเสาเอกพระเมรุมาศฯ เสมือนจริง เพื่อให้พิธียกเสาเอก27 ก.พ.เป็นไปตามฤกษ์ พร้อมมั่นใจในโครงสร้างความแข็งแรง
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ลงพื้นที่ ตรวจความพร้อมสถานที่จัดพิธีบวงสรวงและซักซ้อมการยกเสาเอกพระเมรุมาศ ก่อนจะมีพิธีบวงสรวงยกเสาเอกในวันจันทร์ที่ 27ก.พ.นี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
การตรวจความพร้อมพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชวันนี้ เป็นการตรวจความพร้อม ของสถานที่จัดพิธีบวงสรวงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมทั้งทำการทดสอบการยกและการวางเสาเอกพระเมรุมาศตามกำหนดการจริง เพื่อให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง และเป็นไปตามกำหนดเวลาฤกษ์ วันจันทร์ที่ 27 ก.พ.ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ระหว่างเวลา 10.01น.จนถึงเวลา 10.54 น. อันเป็นมหัทธโนฤกษ์ หมายถึง ฤกษ์ใหญ่ ใช้ประกอบการมงคลทุกอย่าง เป็นปฐมฤกษ์ เช่น สร้างบ้านใหม่ ประกอบธุรกิจ มีความเจริญรุ่งเรือง เงินทองและฐานะสมบัติมั่งคั่ง
จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ภายในมณฑลพิธี รวมถึงตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมศิลปากร ณ วิธานสถาปกศาลา (โรงขยายแบบ) อาคารจัดสร้างพระโกศจันทน์ อาคารปั้นหล่อประติมากรรมและอาคารเขียนสีและตกแต่งองค์ ประกอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมในวันจันทร์ที่ 27 ก.พ.นี้ด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานระบบความปลอดภัยและเป็นไปตามโบราณราชประเพณี เสาแต่ละต้นจะใช้เครน2 ตัวน้ำหนักถึง200 ตัน โดยโครงสร้างเสาเอกสูง 23.5เมตรหนัก20 ตัน น้ำหนักเท่ากันทั้ง4 ต้น จากความสูงของพระเมรุมาศถึงยอด50.49 เมตร ซึ่งพิธีบวงสรวงการยกเสาเอก ถือว่าจะเป็นมงคลกับผู้ปฏิบัติงานเพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จลุล่วงด้วยดีและการยกเสาเอกจะต้องสัมพันธ์กันทุกอย่างทั้งเรื่องความมั่นคงแข็งแรงและฤกษ์ ซึ่งหากพิธีบวงสรวงเป็นดำเนินไปด้วยดีก็จะทำให้การก่อสร้างราบรื่นทุกอย่าง
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การบวงสรวงจะมีทั้งพิธีพราหมณ์และสงฆ์ เพื่อความมั่นใจวันนี้ก็จัดซ้อมเหมือนจริงทุกประการ ซึ่งทุกส่วนทั้งรัฐบาล ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมใจกันเพื่อสร้างพระเมรุมาศถวายให้กับในหลวงรัชกาลที่9 และมั่นใจว่าการก่อสร้างมีความรวดเร็วตามแผนที่วางไว้ คือในส่วนโครงสร้างจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมิถุนายนและเริ่มขึ้นงานประติมา กรรมและศิลปกรรมที่รายละเอียดมาก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีโบราณราชประเพณีแบบนี้
สำหรับความสูงของพระเมรุมาศตั้งแต่ฐานรากจนถึงยอดฉัตรนั้นอยู่ที่ 50.49 เมตร ดังนั้นการออกแบบสำหรับการรองรับบริเวณยอดฉัตรนั้น จึงคำนึงถึงการรองรับการต้านแรงลมในระดับสูงสุดที่ 160 กม./ตารางเมตร ถือว่าเป็นไปตามค่าเฉลี่ยการต้านแรงลมที่สูงสุดตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารของกรุงเทพมหานคร จึงมั่นใจในการวางระบบฐานโครงสร้างว่ามีความมั่นคงสามารถต้านทานแรงลมได้แน่นอน อีกทั้งในขั้นตอนการวางระบบนั้น ยังได้จัดทำโมเดลตัวอย่างในคอมพิวเตอร์ในทุกๆ ด้าน ส่วนแผนสำหรับการรองรับแรงสั่นสะเทือนนั้น ได้มีการตรวจวัดระดับความทรุดทุกเดือน ส่วนช่วงหน้าฝนในพื้นที่ก่อสร้างพระเมรุมาศเตรียมขุดรางน้ำรอบบริเวณฐานรากและรางระบายน้ำทั้ง4ทิศ .-สำนักข่าวไทย