ทำเนียบฯ 24 ก.พ. – นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เดินทางมาหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทยขณะนี้ในการปรับโครงสร้างภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ไม่ใช่เพียงเศรษฐกิจไฮเทค แต่เป็นแนวทางทำให้เกิดความสมดุล ในส่วนนี้ทางไอเอ็มเอฟเห็นด้วยกับแนวทางของไทย เนื่องจากจะทำให้เศรษฐกิจไทยยั่งยืน
สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจนั้น ได้ให้ข้อมูลกับไอเอ็มเอฟว่าไทยสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและแนวโน้มของโมเมนตัมกำลังเกิดขึ้น ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี แต่ไม่ได้พอใจอยู่เท่านี้ ไทยต้องการปฏิรูปประเทศ และย้ำว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง ไอเอ็มเอฟอาจจะห่วงหนี้สาธารณะ แต่หนี้ของไทยอยู่ระดับร้อยละ 45 ของจีดีพี อยู่ในกรอบรัฐบาลบริหารจัดการได้
ส่วนหนี้ครัวเรือน แม้จะอยู่ระดับสูง แต่ไม่น่าเป็นห่วง ขณะนี้ให้กระทรวงการคลังแยกข้อมูลให้เห็นชัดเจนว่าส่วนไหนเป็นหนี้ที่กู้ยืมไปเพื่อใช้จ่าย และการกู้ยืมไปเพื่อทำธุรกิจ เพราะหนี้ครัวเรือนบางส่วนเป็นการกู้เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ยังชี้แจงว่าการใช้กลไกธนาคารของรัฐนั้นยังมีความจำเป็น เพราะรัฐบาลต้องใช้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟ ยังเห็นด้วยในการทำงบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง เพราะขณะนี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวและตั้งตัวได้ จำเป็นต้องทำงบประมาณขาดดุลจะได้เกิดความต่อเนื่องของการขยายตัวโดยเฉพาะการเติบโตมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
นายสมคิด กล่าวว่า ไอเอ็มเอฟเสนอช่วยไทยจัดทำแผนรองรับสังคมสูงอายุโดยเฉพาะด้านการเงินซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของไอเอ็มเอฟจากการมีประสบการณ์ทั่วโลก ซึ่งเห็นว่าน่าสนใจและได้ให้ไอเอ็มเอฟไปหารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนดูแลผู้สูงอายุ. – สำนักข่าวไทย