26 ก.พ. – ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมกับชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจ และทหาร ลงพื้นที่อ่าวต้นไทร ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาอ่าวน้ำเมา และป่าเขาอ่าวนาง เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พบมีการบุกรุก ปลูกสร้างที่พัก โรงแรม รีสอร์ท และสถานประกอบการนำเที่ยวหลายสิบ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีหลักฐานการครอบครอง ขณะที่ผู้ประกอบการอ้างว่าเช่าพื้นที่ต่อจากผู้ครอบครองอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดพื้นที่ เพื่อให้เจ้าของที่ดินนำหลักฐานมาแสดง
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ เปิดเผยว่า บางแปลงมีการจับกุมไปแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินคดีและมีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติม บางแปลงเป็นการบุกรุกพื้นที่ใหม่ ก่อนแบ่งเป็นล็อคเปิดให้เอกชน และผู้ประกอบการเช่าพื้นที่เปิดกิจการ สำหรับพื้นที่อ่าวต้นไทร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม มีโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายแห่ง ทำให้ที่ดินราคาสูงถึงไร่ละ 10 ล้านบาท
ส่วนคืบหน้าเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เข้าตรวจสอบพร้อมตรวจยึดรีสอร์ทบ้านบ้านพักตากอากาศ พื้นที่เกาะพยาม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอันดับ 1 ของจังหวัดระนอง วันนี้เจ้าหน้าที่ทำบันทึกจับกุมพร้อมเอกสาร ส่งพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มนายทุน 7 ราย จาก 9 ราย ส่วน 2 ราย นำเอกสารมาแสดงเพิ่มเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ และอีก 40 ราย กำลังตรวจสอบเอกสารว่าเป็นของจริงหรือไม่ โดยต้องนำไปเทียบกับแผนที่ดาวเทียมปี 2545 ว่า มีร่องรอยการทำกินหรือไม่ และหนังสือที่นำมาแสดงเป็นจุดเดียวกับที่ถือครองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตรวจสอบพบมีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการเรื่องหนังสือครอบครองที่ดินมาหลอกขายให้กับผู้ถือครองหลายราย และอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 40 บางสัก ตรัง ลงพื้นที่ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อตรวจสอบกรณีฟาร์มกุ้ง บริษัทลูกของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ออกเอกสาร น.ส.3 ก รุกป่าชายเลน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ทับที่ดินทำกินและบ้านเรือนกว่า 400 ไร่ ชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ 2557 แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระดับอำเภอ แต่ต้องสะดุดลงเนื่องจากบริษัทไม่สามารถนำชี้แนวเขตของที่ดินได้ และแจ้งว่าไม่มีงบประมาณจ้างเจ้าหน้าที่ทำการรังวัดแนวเขต ชาวบ้านจึงร้องเรียนไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงมาตรวจสอบ โดยที่ดินจังหวัดตรัง สาขา กันตัง กำลังเร่งตรวจสอบ เนื่องจากพบว่าเอกสารแบบที่ ส.ค.1 ราย แปลงหายไป จึงต้องบูรณาการตรวจสอบร่วมกับหลายหน่วยงาน แต่เบื้องต้นพบความผิดปกติการออกเอกสาร น.ส.3 ก หลายอย่าง เชื่อว่าเนื้อที่ต้องเกินไปจาก ส.ค.1 จำนวน 12 แปลง รวมทั้งรายละเอียดของบุคคลที่เกี่ยวข้องพบว่าเป็นกลุ่มคนเดียวกัน ออกเอกสารสิทธิ์เวลาใกล้เคียงกัน. -สำนักข่าวไทย