กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- ผบช.น.เผยการแก้ปัญหาจราจรติดขัดใน 21 สายหลักดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น ชี้เป็นผลจากการกวดขันวินัยจราจร และสภาพถนนมีการปรับปรุงให้สะดวกขึ้น
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาการจราจร ของกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า จากการตรวจสอบผลการปฎิบัติในห้วงตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยลดการใช้เส้นทางและท้ายแถวรถสะสม ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้า อยู่ที่ 24 นาที และช่วงเย็น49 นาที ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น โดยเป็นผลจากการกวดขันวินัยจราจร ในถนน 21 สายหลัก รวมทั้งเจ้าหน้าที่มีความเข้าใจการปฎิบัติมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงกายสภาพของถนน เพื่อให้รถเดินทางได้สะดวก มากยิ่งขึ้นด้วยจาก 92 จุด ได้ดำเนินการไปแล้ว 36 จุด
ส่วนกรณีการจัดการจราจรบริเวณรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง ในห้วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เคยปิดการจราจรโดยรอบ 27 เส้นทางนั้น จากการประเมินผลที่ผ่านมา พบว่า ณ ขณะนี้แม้ในวันหยุดราชการ ก็สามารถบริหารจัดการจราจรได้ จึงกำหนดให้ใช้การจัดการเช่นเดียวกับวันธรรมดาคือปิดเพียง8 เส้นทางโดยรอบ เพื่อให้ประชาชนเ ดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงขอความร่วมมือประชาชนใช้รถสาธารณะเพื่อลดปัญหาจราจร
ขณะที่การปิดสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่ 10 – 15 นาฬิกา เพื่อให้ดำเนินการเตรียมรื้อสะพานข้ามแยก เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก่อนจะขยายเวลาการปิด ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายนนี้ จากนั้นปิดในทุกช่วงเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนรับมือสภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวไว้ 3 แผน คือ 1 ปรับการให้สัญญานไฟจราจรบริเวณสี่แยกรัชโยธิน จะห้ามรถไม่ให้เลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกรัชโยธิน และอาจจะจัดรูปแบบเดินรถทางเดียว
ซึ่งเบื้องต้นจะแก้ปัญหาโดยการใช้รูปแบบแรกก่อน จึงฝากประชาสัมพันธ์หากประชาชนไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยง.-สำนักข่าวไทย