ประชุมคณะทำงานฯ เปรียบเทียบ กม. ด้านประมง

ดินแดง3 มี.ค.-ก.แรงงาน ประชุมร่วมผู้แทนภาครัฐ เอกชน ศึกษากฏหมายสอดรับ ILO หวังคุ้มครองแรงงานประมงตามหลักสากล


 

นายสิงหเดช  ชูอำนาจ  รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงแรงงาน  เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมง พ.ศ.2550 (ค.ศ.2007) ที่กระทรวงแรงงาน โดยมีผู้แทนฝ่ายนายจ้าง  ลูกจ้าง ภาคประชาสังคม เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเจ้าหน้าที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ร่วมหารือแลกเปลี่ยนผลศึกษาวิเคราะห์ เปรียบเทียบความสอดคล้องของกฎหมายภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 188 เพื่อนำผลสรุปจัดทำรายงานผลการศึกษา ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนากฎหมายภายในประเทศที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องบทบัญญัติอนุสัญญาและความเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยให้สมบูรณ์มากขึ้น รวมทั้งให้กฎหมายประมงทะเลสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและสอดคล้องตามมาตรฐาน สากลต่อไป


 

นายอเลน เพลเซ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศและกฎหมายแรงงาน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ กล่าวว่า การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้เพื่อให้การทำงานด้านการขจัดการละเมิดการทำงานในภาคประมง รวมทั้งเสริมสร้างกรอบความคุ้มครองทางกฎหมายของประเทศไทย โดยอ้างอิงกรอบองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) จากความคืบหน้าของกฎระเบียบที่รัฐบาลจัดทำแนวปฏิบัติให้สอดคล้องตามข้อกำหนดอนุสัญญาฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลการดำเนินชีวิตแรงงานของประเทศไทยและแรงงานข้ามชาติในกิจการประมงทะเล ทั้งในเรื่องความปลอดภัยต่อสุขภาพ และการคุ้มครองทางสังคม เป็นต้น

 


การหารือเพื่อศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมง พ.ศ.2550 ครั้งนี้ จะทำให้เกิดประโยชน์ในการนำกฎหมายไปบังคับใช้ในทางปฏิบัติแก่แรงงานในประเทศไทยและแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเล ซึ่งจะได้รับการคุ้มครองทางสังคม อาทิ การได้รับการตรวจสุขภาพ การจัดอาหารและน้ำดื่มที่ถูกสุขลักษณะ การให้การดูแลทางการแพทย์เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงาน  มีเวลาพัก ตลอดจนการจัดที่พักอาศัยให้อย่างเหมาะสม การจัดทำบัญชีรายชื่อสัญญาจ้าง ทะเบียนลูกจ้าง หลักฐานการจ่ายค่าจ้าง รวมทั้งการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและมาตรฐานสากล .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ