ปทุมธานี 3 มี.ค.-ดีเอสไอควบคุมตัวพระ สามเณร และลูกศิษย์วัดพระธรรมกายที่เตรียมจะย้ายสถานที่ชุมนุมไปอีกที่หนึ่ง หลังดีเอสไอประกาศให้ย้ายออกจากพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวง ขณะที่มวลชนส่วนใหญ่ยังปักหลักนั่งสวดมนต์อยู่ในพื้นที่ พร้อมยืนยันยอมตายดีกว่ายอมย้าย
ทหารร่วมกับ ตชด.ภาค 1 และดีเอสไอ อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว 14 คน พระสงฆ์และสามเณรรวม 11 รูป และลูกศิษย์วัดพระธรรมกายอีก 6 คน จากตลาดป้าเช็ง ย่านคลองหลวง มาชี้แจงข้อสงสัย หลังพบว่าพระสงฆ์ สามเณร และลูกศิษย์กลุ่มดังกล่าวรวมตัวที่ตลาดป้าเช็ง เพื่อขยายพื้นที่ชุมนุมต่อต้านมาตรา 44 หากเจ้าหน้าที่ยึดพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงคืน จากการสอบปากคำเบื้องต้นให้การว่า มาศึกษาดูงาน และเตรียมตัวจะเดินทางกลับต่างจังหวัดเย็นนี้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากหนึ่งในลูกศิษย์วัดพระธรรมกายรับว่าเป็นนายจ้างของแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คน และเพิ่งเดินทางออกจากตลาดกลางคลองหลวงเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังดีเอสไอยื่นคำขาดให้ย้ายออกจากพื้นที่
ขณะที่พระปลัดเสกสรร อัตตทัมโม พระลูกวัดพระธรรมกาย เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่และเจ้าของเต็นท์มาเจรจา เพื่อขอรื้อเต็นท์คืนหลังหมดสัญญา ขณะนี้การเจรจาจบลงแล้ว โดยพระและลูกศิษย์ไม่ยอมให้รื้อเต็นท์ โดยพยายามซื้อเต็นท์ต่อแล้ว แต่เจ้าของเต็นท์ก็ไม่ยอมขาย เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนการฝ่าฝืนอำนาจ คสช.ตามมาตรา 44 ซึ่งเจ้าของเต็นท์ทั้งสองก็ตัดสินใจเดินทางกลับ และพาลูกน้องกลับไปด้วย โดยยังไม่ได้รื้อเต็นท์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรื้อเต็นท์หรือไม่ พระและลูกศิษย์ยืนยันจะปักหลักสวดมนต์อยู่ที่นี่ต่อไป จนกว่าจะได้เข้าวัดพระธรรมกาย ไม่เคยกลัวการสวดมนต์กลางแดด พร้อมยืนยันหนักแน่น ทุกคนที่นี่ยอมตายแต่ไม่ยอมย้าย หากไม่ได้เข้าไปในวัด ก็ขอตายที่หน้าวัด
นอกจากนี้ พระปลัดเสกสรร ยังเปิดเผยด้วยว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ดีเอสไอส่งสัญญาณกดดันเจ้าของรถสุขาเคลื่อนที่ ซึ่งให้บริการภายในตลาด ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่เห็นแก่มนุษยธรรม เรื่องปัจจัยพื้นฐานด้วย โดยยืนยันถึงไม่มีรถสุขา ก็จะไม่ไปไหน ทุกคนก็ยังจะอยู่ที่นี่เช่นเดิม ด้านทหารเผยเจ้าของเต็นท์ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คลองหลวง แทนการเข้ารื้อเต็นท์กลับ เพื่อป้องกันการปะทะกับพระมวลชน.-สำนักข่าวไทย