พล.อ.วิทวัส ได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหาร IOI คนแรกของภูมิภาคเอเชีย

38กรุงเทพฯ 19 พ.ย.-“พล.อ.วิทวัส” ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 กรรมการบริหาร IOI ถือเป็นคนแรกของภูมิภาคเอเชีย เผยการประชุมระดับโลกของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นของประเทศสมาชิกทั่วโลก พร้อมนำมาประยุทธ์ใช้กับการทำงาน หนุนความร่วมมือขยายเครือข่ายเชื่อมต่อองค์กรตรวจสอบภาครัฐ มุ่งยกระดับองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินไทย


พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับโลกของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2559 ว่า เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประเทศสมาชิกทั่วโลกที่ได้มีการหยิบยกประเด็นที่หลากหลายมาให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานของผู้ตรวจการแผ่นดินแต่ละประเทศให้ทัดเทียมกัน

พล.อ.วิทวัส กล่าวด้วยว่า สำหรับเวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้รับทราบถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขที่สามารถนำมาเป็นแนวทางขยายโอกาสในการเข้าถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เช่น ประเทศเซอร์เบียที่ได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเทศบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศในการใช้ห้องสมุดท้องถิ่นเป็นจุดรับเรื่องร้องเรียน ทำให้ชาวเซอร์เบียเข้าถึงผู้ตรวจการแผ่นดินได้มากยิ่งขึ้น หรือประเทศเกาหลีที่พัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียนขององค์กรตรวจสอบทั้งหมดไว้ในระบบเดียวที่เรียกว่า E-People ซึ่งเป็นระบบรับเรื่องร้องเรียนออนไลน์แบบครบวงจรที่ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ถึง 14 ภาษา เนื่องจากต้องการลดความสับสนในการยื่นเรื่องของประชาชนไปยังหลาย ๆ หน่วยงานที่มีบทบาท อำนาจหน้าที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งลดความซ้ำซ้อนในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของหน่วยงานด้วย ซึ่งคล้ายกับประเทศไอร์แลนด์ที่พัฒนาระบบการรับเรื่องเรียนแบบ “One Single Door For Complaints” การรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบเดียวนี้จะลดความสับสน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สะดวกต่อประชาชนที่จะเข้าถึงบริการมากยิ่งขึ้น


40พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังกล่าวถึงนโยบายของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศที่ต้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทำงานอย่างอิสระ ไม่ถูกคุกคามจากหน่วยงานใด ๆ ปราศจากการแทรกแซงจากรัฐบาลและการเมือง แต่ทั้งนี้ต้องให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อเป็นหลักประกันในการทำงานด้านการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมทั้งเน้นย้ำประเทศสมาชิกให้ดำรงไว้ซึ่งหลักความยุติธรรม โดยไม่พิจารณาเฉพาะเรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียว ซึ่งนับเป็นหลักการสำคัญที่ผู้ตรวจการแผ่นดินทั่วโลกต้องยึดมั่น

ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ได้มีการเลือกตั้งกรรมการฝ่ายบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (International Ombudsman Institute หรือ IOI) ชุดใหม่ จำนวน 5 คน ซึ่งประกอบด้วย นายปีเตอร์ ทินดัล ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งไอร์แลนด์ ดำรงตำแหน่งประธาน นางไดแอน เวลบอร์น ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเมืองเดย์ตันและมอนท์โกเมอรี มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 นายคริส ฟิลด์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่ 2  นายกึนเธอร์ ครอยเตอร์ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ และ พล.อ.วิทวัส ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก โดยรับผิดชอบการบริหารจัดการด้านงบประมาณและการเงินของสถาบันฯ ให้เกิดความโปร่งใสและให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด รวมทั้งจะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนยุทธศาสตร์และการปฏิรูป IOI ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ

41“พล.อ.วิทวัส ถือเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินคนแรกของภูมิภาคเอเชียที่ได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการฝ่ายบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ นับว่าสร้างเกียรติภูมิให้กับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมนำเสนอข้อคิดเห็น นโยบายที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งนำผลจากการประชุมของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศมาพัฒนาองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งภูมิภาคเอเชียต่อไป” นายรักษเกชา กล่าว


นายรักษเกชา กล่าวด้วยว่า นอกจากที่ประยังได้หารือเพื่อขยายเครือข่ายความร่วมมือในระดับทวิภาคีกับผู้ตรวจการแผ่นดินจากสาธารณรัฐอุซเบกิสถานเพื่อนำไปสู่กรอบแนวทางการลงนามในบันทึกข้อตกลงในอนาคตที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งพัฒนาระบบการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ อีกทั้งแสวงหาจุดที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน และแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนของทั้งสองประเทศ เนื่องจากรัฐบาลไทยได้มีการลงนามความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวกับรัฐบาลอุซเบกิสถาน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนของแต่ละประเทศไปมาหาสู่กันมากขึ้น และอาจจะต้องมีการขอรับบริการจากหน่วยงานของรัฐของแต่ละประเทศและอาจจะมีปัญหาที่จะนำไปสู่การร้องเรียนในด้านความไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของแต่ละประเทศอาจต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องนี้ ดังนั้นแนวคิดในเรื่องการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์ในเรื่องของการคุ้มครองประชาชนในแต่ละฝ่ายในต่างแดน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]