เตรียมเปิดขายไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ไตรมาส 2

รร.ดุสิตธานี 17 ก.พ. – รัฐเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เตรียมเปิดขายไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ไตรมาส 2 ปีนี้ คาดระดมทุนได้มากกว่า 50,000 ล้านบาท ด้านเอกชนมั่นใจเศรษฐกิจขยายตัว


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นโอกาสดีที่รัฐจะลงทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศ โดยควรมุ่งเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย ทั้งท่าเรือแหลมฉบัง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมถึงระบบราง ซึ่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จับต้องได้จะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยระบบภาษีต้องเอื้อสิทธิประโยชน์ให้กับนักลงทุนมากขึ้น  ประกอบกับควรนำนวัตกรรมเข้ามาใช้  ก็จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0

ทั้งนี้ ไทยมีแหล่งเงินทุนเพื่อการลงทุน จากประมาณร้อยละ 20 จากงบประมาณประจำปี  การก่อหนี้สาธารณะซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ   การเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ   รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ที่จะนำ 2 โครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประกอบด้วย ทางด่วนบูรพาวิถีและทางพิเศษฉลองรัช เข้ามาดำเนินการในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์  คาดว่าจะเปิดขายหน่วยลงทุนภายในไตรมาส  2 ปีนี้ และระดมเงินทุนได้ประมาณ 40,000 – 50,000 ล้านบาท โดยเงินที่ระดมทุนครั้งนี้จะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง โดยไม่เป็นภาระงบประมาณและการกู้เงินของประเทศ  โดยระยะต่อไปจะมีการนำเส้นทางของกรมทางหลวง ทั้งทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 มาเข้าไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ด้วยซึ่งต้องรอความชัดเจนจากทางกรมทางหลวงก่อน


นายชัยพร  น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์มีความน่าสนใจ เพราะกองทุนนี้จะช่วยระดมทุนและหารายได้ เพื่อใช้ในการก่อสร้างและสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งมองว่าผลตอบแทนที่จะจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อกองทุนควรอยู่ที่ร้อยละ 5 – 6 จากปกติกองทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานจะอยู่ที่ร้อยละ 4 – 8

สำหรับการลงทุนภาครัฐ หากเดินหน้าตามแผนที่วางไว้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้น เพราะโครงการต่าง ๆ ไทยสามารถขับเคลื่อนได้จริง แม้บางโครงการจะช้าล่าไปบ้าง

นายพีรพงศ์  จิระเสวีจินดา  กรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน  บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์สามารถให้ผลตอบแทนนักลงทุนระยะยาว โดยกลุ่มหุ้นที่จะได้รับปัจจัยบวก คือ กลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์  นิคมอุตสาหกรรม  ขณะที่ภาครัฐระดมทุนเพื่อไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวถึงร้อยละ 4 แต่หากล่าช้าไม่มีการลงทุนคาดจะขยายตัวเพียงร้อยละ 3  และปัจจุบันการลงทุนภาครัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติมาก โดยดูจากเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดทุนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีเม็ดเงินไหลเข้าแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง