ปทุมธานี 18 ก.พ.-ย้อนปฏิบัติการดีเอสไอตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 3 วัน แม้จะยังไม่พบพระธัมมชโย แต่สามารถตรวจยึดและดำเนินการตามกฎหมายได้หลายส่วน
ปฏิบัติการวันแรก 16 กุมภาพันธ์ หลังคสช. ใช้มาตรา 44 เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ดีเอสไอทหารตำรวจประชิดทุกประตูวัด พร้อมเชิญเจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีร่วมเจรจาผลเจรจาเป็นไปด้วยดี วัดพระธรรมกายยอมเปิดทางให้ตรวจค้น ขณะที่ศิษยานุศิษย์เดินทางเข้าวัดต่อเนื่องวันแรกกันไม่ให้สื่อมวลชนร่วมตรวจค้น ขณะที่ยอมเผยแพร่ภาพปฏิบัติการพบเตียงเปล่าที่มีผ้าคลุมคล้ายมีคนนอนอยู่ในอาคารดาวดึงส์ แต่กลับเป็นเพียงผ้าขนหนู
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกายยอมรับ ห้องในภาพเป็นห้องที่พระธัมมชโยเคยใช้รักษาอาการอาพาธจริง แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว ผ้าคลุมมีเพียงเพื่อป้องกันฝุ่น ปฏิบัติการวันที่ 2 ตรวจค้นหลายจุดทั้งอนุญาตให้สื่อตามติดจุดสำคัญ อยู่ที่อาคารภาวนา 60 ปี พื้นที่โซน C ที่มีข่าวลือว่ามีอุโมงค์ลับ เมื่อตรวจค้นพบเป็นอุโมงค์ใช้บำบัดน้ำเสียมีทางเดินลง มีทางแยกซ้ายขวาแต่ละฝั่งยาว 1.5 กิโลเมตร แต่ไม่มีทางออกที่ส่อให้เป็นทางลับสำหรับหลบหนี ตรงกับข้อมูลที่วัดให้ นอกจากนี้ยังค้นที่มหารัตนวิหารคดล้อมรอบมหาธรรมเจดีย์ ที่รู้จักกันในชื่อว่า “จานบิน” และอาคารบุญรักษา สูง 6 ชั้น ที่โซน B ซึ่งยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง และยังพบสถานที่เก็บน้ำมันรวมกว่า 100,000 ลิตร ในบ้านศิษยานุศิษย์ ด้านหลังวัดพระธรรมกายจึงอายัดไว้ตรวจสอบ
แม้วานนี้ดีเอสไอประกาศยุติค้นวัดพระธรรมกาย เพราะค้นทุกจุดเป้าหมาย แต่ไม่พบผู้ต้องหา แต่วันนี้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนท่าทีขอเข้าตรวจสอบเครื่องไฮเปอร์แบริกแชมเบอร์ ในห้องที่ใช้รักษาอาการอาพาธ ปิดอาคารทุกหลังที่ตรวจค้นแล้ว ยกเว้นอาคารที่ยังมีพระสงฆ์จำวัด สำหรับคดีที่พระธัมมชโยเกี่ยวข้อง และนำไปสู่การเข้าตรวจค้นครั้งนี้มีอายุความ 15 ปี หลังปฏิบัติการหากไม่พบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จะปิดพื้นที่ค้นหาอย่างละเอียด เข้าตรวจค้นและติดตามจับกุม และสืบหาสถานที่หลบซ่อน หากหลบหนีออกนอกประเทศ จะใช้กฎหมายผู้ร้ายข้ามแดน แต่หากพบผู้ต้องหาอัยการจะใช้ดุลยพินิจว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ กรณีที่ไม่ให้ประกันตัว พระธัมมชโยต้องลาสิกขาบททันที จากนั้นส่งตัวต่อศาลเพื่อดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย