ครม.เห็นชอบแผนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

ทำเนียบฯ 21 ก.พ. – ครม.เห็นชอบแผนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ มอบธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. ปล่อยกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท คาดช่วยรายย่อย  200,000 คน พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีกดปุ่ม 1 มีนาคมนี้


นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการสินเชื่อรายย่อย เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบกรณีฉุกเฉินสำหรับบรรเทาปัญหาหรือประกอบอาชีพ ห้ามนำไปรีไฟแนนซ์ในระบบ โดยมอบหมายให้ทางธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดำเนินการปล่อยกู้วงเงินธนาคารละ 5,000 ล้านบาท รวมวงเงินสินเชื่อโครงการ  10,000 ล้านบาท  แบงก์รัฐทั้ง  2 แห่งใช้วงเงินของทั้ง 2 ธนาคารดำเนินการเอง  โดยยอดหนี้ทั้งหมดขณะนี้ 123,240 ล้านบาท คาดช่วยเหลือรายย่อยประมาณ  200,000  ราย

ทั้งนี้  กำหนดปล่อยกู้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย คิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.85 ต่อเดือน หรือร้อยละ 10 ต่อปี ใช้บุคคลค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน  หากเกิดปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีความเสียหายของพอร์ตของธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.สัดส่วนร้อยละ 25 ของพอร์ตทั้งหมด รัฐบาลชดเชยร้อยละ 10  หากเกิดปัญหาเอ็นพีแอลมีความเสียหายสัดส่วนร้อยละ 25-37.5 ของพอร์ตทั้งหมด รัฐบาลชดเชยร้อยละ 70  หากเกิดปัญหาเอ็นพีแอลมีความเสียหายสัดส่วนร้อยละ 37.5-50 ของพอร์ตทั้งหมด รัฐบาลชดเชยร้อยละ 50 เฉลี่ยแล้วรัฐบาลชดเชยคืนให้ร้อยละ 40 ของความเสียหาย โดยรัฐบาลพร้อมชดเชยค่าเสียหายหากเอ็นพีแอลไม่เกินวงเงิน 4,000 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อขอสินเชื่อดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปกับธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเดินทางไปร่วมกดปุ่มแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เริ่มโครงการเปิดตัวโครงการสินเชื่อรายย่อยวันที่ 1 มีนาคม เมืองทองธานี  หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลเสนอกฎหมายการทวงถามหนี้  ห้ามข่มขู่ลูกหนี้ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน  200,000  บาท การอนุญาตให้ดำเนินการไมโครไฟแนนซ์ พิโคไฟแนนซ์ การประนอมหนี้ เพื่อดูแลการช่วยเหลือหนี้นอกระบบอย่างครบวงจร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง