กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – รมว.เกษตรฯ แจงคืบหน้าตรวจสอบกรณีกังหันลมในที่ ส.ป.ก. ล่าสุดส่ง 2 ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว เผยกรณี สตง.ตรวจสอบเชื่อปฏิบัติตามหน้าที่ พร้อมส่งข้อมูลให้ตรวจสอบ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีให้ตรวจสอบการเช่าพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินกิจการกังหันลมไฟฟ้า ว่า ตามที่ได้สั่งการให้ ส.ป.ก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงการให้เช่าพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อดำเนินกิจการกังหันลมไฟฟ้า โดยให้รายงานผลภายใน 45 วัน หรือภายในวันที่ 3 เมษายน 2560 นั้น ขณะนี้ ส.ป.ก.แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงาน 2 ชุด ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ 7 คน จังหวัดนครราชสีมา 5 คน โดยกำหนดแผนการตรวจตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม 2560
สำหรับจังหวัดชัยภูมิเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ตรวจบริษัท เทพนา จำกัด อำเภอเทพสถิต จำนวน 3 เสา และบริษัท วะตะแบก จำกัด อำเภอเทพสถิต จำนวน 45 เสา จากนั้นจะเร่งตรวจสอบส่วนที่เหลือจนกว่าจะเสร็จ ส่วนจังหวัดนครราชสีมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตรวจบริษัท เฟิสท์โคราช จำกัด อำเภอด่านขุนทด จำนวน 45 เสา และบริษัท เค.อาร์.ทู. จำกัด อำเภอด่านขุนทด จำนวน 45 เสา จากนั้นจะเร่งตรวจสอบส่วนที่เหลือจนกว่าจะเสร็จ ซึ่งเมื่อตรวจในพื้นที่แล้ว ส.ป.ก.จะประชุมสรุปผลการตรวจ เพื่อรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ทราบภายในวันที่ 27 มีนาคม 2560 เพื่อพิจารณาต่อไป
ส่วนกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ตรวจสอบการเช่าพื้นที่ ส.ป.ก. ดำเนินกิจการกังหันลมไฟฟ้า โดย สตง.มีหนังสือแจ้งให้ ส.ป.ก.ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงภายใน 60 วัน หรือภายในวันที่ 10 เมษายนนั้น ต้องถือว่า สตง.ทำตามหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ/รายได้ภาครัฐ ตลอดจนทรัพย์สินของรัฐเป็นไปตามกฎหมาย/ระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งถือว่าช่วยกันกำกับดูแลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ผูกพันทุกองค์กร ซึ่งจะยึดถือเป็นบรรทัดฐานในการตรวจสอบและการดำเนินการต่อไป โดยการดำเนินการของ ส.ป.ก.จะต้องรอผลการตรวจตามที่ได้มีการสั่งการไปนำมาสรุป เพื่อจัดทำรายงานชี้แจง สตง.ในกำหนดเวลาต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นการกำหนดอัตราค่าเช่า 35,000 บาท/ไร่/ปี เป็นการดำเนินการที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) สอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการให้เอกชนเช่าที่ดินทำประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน เช่น กรมธนารักษ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมป่าไม้ เป็นต้น ซึ่งอัตรานี้สูงกว่าหน่วยอื่น ๆ และยังสามารถปรับอัตราได้ทุก ๆ 5 ปี คปก.มีมติเห็นชอบในการประชุม ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ส่วนค่าเช่า 35,000 บาท/ไร่/ปี นั้น ได้นำเข้ากองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทั้งหมด ซึ่งการนำไปใช้มีระเบียบชัดเจน และศาลปกครองสูงสุดไม่ได้ชี้การทุจริตต่อหน้าที่ของ คปจ.ชัยภูมิ และ ส.ป.ก. แต่ศาลปกครองสูงสุดชี้ว่าบริษัทเอกชนไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเช่า ซึ่งมาทราบภายหลังที่อนุมัติไปแล้ว แต่เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟ้องร้องคดี จึงต้องรอคดีสิ้นสุดก่อน ถึงจะดำเนินการต่อไปได้.-สำนักข่าวไทย