“บิ๊กเต่า” ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว-พื้นที่ใกล้เคียง 600 ไร่

สระบุรี 12 ธ.ค. – “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” ร่วมกับ ป.ป.ท. ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี หลังปรากฏข้อมูลว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า


จากกรณีปัญหาที่ดินไร่ภูนับดาว จังหวัดสระบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าบุกรุกที่ดินปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หรือไม่ วันนี้ (12 ธ.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวในตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พร้อมนายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 นายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขาธิการ ส.ป.ก, นายพนมไพร ดีใหม่ ผู้อำนวยการสำนักแผนที่และสารบบที่ดิน ส.ป.ก. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตำรวจ บก.ปปป. และตำรวจบก.ปทส. ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว และพื้นที่ใกล้เคียง หลังปรากฏข้อมูลว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า

นายปรีชา กล่าวว่า จะตรวจสอบกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการรุกที่สวนป่าของไร่ภูนับดาวว่ามีส่วนไหนที่ทับซ้อนพื้นที่ป่า รวมถึงการที่ก่อนหน้านี้มีการกล่าวอ้างเรื่องคำพิพากษาเมื่อตรวจสอบในรายละเอียดก็ไม่เห็นว่ามีส่วนไหนระบุว่าเป็นสวนป่า เพราะตามกฎกระทรวง ตั้งแต่ปี 2525 กรมป่าไม้เพิกถอนป่าสงวนบริเวณจุดที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ ส่งมอบให้ ส.ป.ก.แล้ว ส่วนที่มีข่าวว่าทางกรมป่าไม้มีการปลูกป่าตั้งแต่ปี 2529-2537 นั้น ก็ต้องไปตรวจสอบว่ามีข้อมูลเรื่องการขออนุญาตปลูกป่าในพื้นที่ ส.ป.ก.หรือไม่ แล้วป่าอยู่ตรงไหน


ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักแผนที่และสารบบที่ดิน ส.ป.ก. ได้นำเอกสารราชการ รวมถึงแผนที่มายืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวที่ไร่ภูนับดาวตั้งอยู่ ถูกเพิกถอนออกจากการเป็นพื้นที่ป่าสงวนไปแล้ว และตามกฎหมาย ส.ป.ก. ไม่เคยคืนพื้นที่กลับให้ใคร เมื่อถามว่าในส่วนของการสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่ไร่ภูนับดาว ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก.หรือไม่ บอกเพียงว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตั้งคณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าการลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่จะมาบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. โดยไม่มีคุณสมบัติการสืบสวนพื้นที่ 600 ไร่ ได้ทำร่วมกับทาง ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.มาระยะหนึ่งแล้วโดยจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่อีก 600 ไร่ ที่ได้ตรวจสอบพบว่าไม่มีคุณสมบัติทุกคน โดยยืนยันอีกครั้งว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องของการคืนพื้นที่ป่าจากนายทุน เพื่อให้ ส.ป.ก.จัดสรรพื้นที่ให้กับเกษตรกรจริงๆ ไม่ใช่ออกพื้นที่ให้กับนายทุนโดยที่ไม่มีคุณสมบัติ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ครอบครองพื้นที่เป็นคนมีเงินไม่ใช่เกษตรกรที่ทำมาหากิน โดยมีตัวกลางเป็นนายทุนใหญที่กว้านซื้อจากชาวบ้านแล้วนำไปแบ่งสรร มีข้าราชการเข้ามาฉ้อฉลแบ่งที่ดินต่างๆ ให้ผู้ไม่มีสิทธิ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นตั้งแต่การออก ส.ป.ก. มีนายทุนและข้าราชการเข้ามาจับจอง นำที่ดินที่เป็นป่าและสวนป่าไปออก ส.ป.ก. ซึ่งมีพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายทางอากาศ พยานบุคคล ในการดำเนินการเรื่องนี้โดยทาง ป.ป.ท.ได้ดำเนินการสืบสวนลงลึกไปในรายละเอียดที่มากพอสมควรแล้ว จึงมาบังคับใช้กฎหมายในวันนี้


นายกฤศกร กล่าวว่า นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดิน และผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องการจะลงพื้นที่ในวันนี้ แต่ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในภาครัฐจึงไม่ลงพื้นที่มาในวันนี้

นายกฤศกร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตรงนี้มีการออก ส.ป.ก.4-01 ให้กับชาวบ้านตั้งแต่ปี 2530 โดยมีการระบุชัดเจนว่าพื้นที่ด้านทิศตะวันตก รวมทั้งระวางของ ส.ป.ก. เองก็ระบุชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนป่าทั้งหมด อีกทั้งคำพิพากษาของศาลจังหวัดสระบุรีได้มีคำสั่งดำเนินคดีกับบุคคลที่ออก ส.ป.ก. ว่าบุกรุกสวนป่า ซึ่งผู้ที่ถูกดำเนินคดีรับสภาพทั้งหมด มีเพียงภรรยาปลัด อบต. ที่ต่อสู้ถึงศาลฎีกา และถูกจำคุก 6 เดือน ซึ่งคำพิพากษาของศาลระบุชัดเจนว่า มีการวางแผนกันอย่างไร โดยภายหลังพื้นที่ดังกล่าวได้ ส.ป.ก.4-01 แล้ว ทุกคนโอนสิทธิ์ให้กับคน ๆ เดียวในวันเดียวกันทั้งที่มีการต่อสู้กันจนถึงชั้นศาล ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยได้มีการส่งมูลทั้งหมดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว

ส่วนที่จะมาขยายผลวันนี้คือ พื้นที่ 600 ไร่ โดยคนที่มีชื่อได้รับการโอนมาจากบุคคลคนเดียวและนำไปจัดสรรขาย โดยบุคคลดังกล่าวก็ถูกศาลพิพากษาในคดีบุกรุกสวนป่าเช่นกัน แต่ก็ยังมีการขยายพื้นที่ออกไปอีก 600 ไร่ ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นป่าที่สมบูรณ์

ส่วนกรณีที่ ส.ป.ก. มีข้อโต้แย้งว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นการปฏิรูปที่ดิน ไม่ใช่แปลงสวนป่า ทำให้ข้อมูลยังคงขัดแย้งกันอยู่นั้น นายกฤศกร กล่าวว่า พื้นที่แปลงดังกล่าวเป็นสวนป่าตั้งแต่ปี 2521 มีเนื้อที่ 6,640 ไร่ อยู่ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าฤทธิ์ ป่าลำทองหลาง และป่าลำพญากลาง ต่อมาปี 2525 มีการเพิกถอนป่าสงวนจำแนกให้ ส.ป.ก. แต่มีบันทึกข้อตกลงระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมป่าไม้ ว่าพื้นที่ที่เป็นสวนป่าต้องกลายเป็นภาระผูกพันธ์คืนให้ป่าไม้ โดยเมื่อปี 2541 มีการตรวจสอบพื้นที่ร่วมกันระหว่าง ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ โดยมีผู้ลงนามคืออดีตเลขาธิการ ส.ป.ก. ซึ่งในสมัยนั้นดำรงตำแหน่ง ส.ป.ก. จ.สระบุรี โดยมีการตรวจยึดและทำแผนที่คืนให้กับกรมป่าไม้เรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันว่าในสารบบมีการระบุชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนป่า ซึ่งไม่ทราบว่าออก ส.ป.ก. ได้อย่างไร

นอกจากนี้ ทาง ป.ป.ท.ยังได้มีการตรวจสอบบุคคลที่มีรายชื่อ ส.ป.ก.แล้ว พบว่าบุคคลที่มีรายชื่อล้วนไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมีทั้งกรรมการผู้จัดการบริษัทหลายแห่ง ผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ อาจารย์ ค้าขาย ข้าราชการ ภรรยาข้าราชการ และยังเป็นบุคคลนอกพื้นที่อีกด้วย ส่วนที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นั้น นายกฤศกร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ออก ส.ป.ก. ทั้งพื้นที่ด้านบนและด้านล่างเป็นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปเรียบร้อยแล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า พื้นที่ทั้งหมดของมวกเหล็กเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. แต่มีข้อยกเว้นที่ไม่สามารถออก ส.ป.ก.ได้ จึงมองว่าหาก ส.ป.ก.จะออกได้ทุกที่โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นป่าไม้ หรือออกให้กับคนที่ไม่มีคุณสมบัติ มองว่า ส.ป.ก.จะล้ำเส้น หรือหมิ่นเหม่ในข้อกฎหมายทุจริตหรือไม่ เพราะป่าก็คือป่า ควรจะไปออกในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านซึ่งทำมาโดยปกติและอยู่กันมาเป็นเวลานาน แต่พื้นที่กลับไปอยู่ในมือของนายทุน วันนี้ไม่ได้มาเพราะเรื่องการเมืองแต่มาเพราะต้องการเรียกคืนพื้นที่ให้กับเกษตรกรโดยแท้จริงได้มีพื้นที่ทำกินไปถึงลูกหลาน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการลงพื้นที่มาตรวจสอบในวันนี้หากพบพยานหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรายใด เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการขอศาลเพื่อออกหมายจับไม่มีละเว้นทุกราย

จากนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยมีชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ตั้งแต่เด็กจนโตประกอบอาชีพเลี้ยงวัวมากว่า 50 ปี ร่วมพาชี้จุดในพื้นที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ 600 ไร่ ที่เดิมเคยเป็นป่าไม้สมบูรณ์. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]